หลายจังหวัดในภาคเหนือ เร่งหามาตรการรับภัยน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคใต้แถบชายทะฝั่งทะเลอันดามันเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว แต่มีคำเตือน ให้ระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคนถล่มอย่างต่อเนื่อง เพราะมีฝนตกหนักอยู่ ส่วนภาคเหนือ มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้จังหวัดพื้นที่เสี่ยง เร่งหามาตรการรับมือ

ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ตรวจสอบสภาพความพร้อมของตลิ่ง และพนังกั้นน้ำตลอดแนวสายน้ำคำกว่า 50 กิโลเมต ว่าอยู่สภาพที่แข็งแรง สามารถรับมือกับน้ำป่าได้หรือไม่ หลังมีฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

นายบรรจง ยางยืน นายกเทศมนตรีตำบลจันจว้า กล่าวว่า ตำบลจันว้าเป็นพื้นที่ ต้องรับน้ำจากแม่น้ำคำและแม่น้ำจัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเข้าท่วมเป็นประจำทุกปี ปีนี้จึงต้องเร่งวางมาตรการป้องกัน และเตรียมกำลังพล รวมทั้งสภาพตลิ่ง และขุดลอกเพื่อให้ระบายน้ำเร็วขึ้น

ส่วนที่จังหวัดน่าน ทหารจังหวัดทหารบกน่านได้จัดเตรียมกำลังพลกว่า 400 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงฤดูฝน ที่มักเกิดน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี

ส่วนภาคใต้ น้ำป่าที่ไหลลงจากเทือกเขาพนมเบญจา ลงคลองหมู่บ้าน และ มีปริมาณเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านต้นหาร อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ เฝ้าดูระดับน้ำ เพื่อเตรียมขนข้าวของอพยพไว้ที่ปลอดภัย เพราะเกรงว่าน้ำที่เริ่มเอ่อล้นตลิ่งจะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนเสียหายหนัก เหมือนเมื่อปี 2554

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 8 อำเภอ ที่อยู่ใกล้ภูเขา ให้ระวัง ดินสไลด์ และ น้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากในพื้นที่ มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน

ส่วนที่จังหวัดพังงา ระดับน้ำที่ท่วมในตำบลโคกเคียน ตำบลบางไทร ตำบลตำตัวและตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า เริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่บางพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ประมาณ 30 เซนติเมตร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศให้พื้นที่ 4 อำเภอคือ อำเภอตะกั่วป่า  ตะกั่วทุ่ง กะปง และอำเภอเมือง เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม

จังหวัดสตูล น้ำที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ 7 อำเภอ ลดปริมาณเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่บางพื้นที่ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มมีน้ำท่วมขัง แม้สถานการณ์จะคลี่คลาย แต่มีคำเตือนให้ประชาชน เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมต่อไปอีก 2 - 3 วัน