<"">
การใช้แก๊สน้ำตา และเครื่องขยายเสียงระหว่างผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 2 และ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา นอกจากจะส่งผลกระทบกับผู้ที่อยู่ในละแวกที่มีการปะทะกันแล้ว ยังส่งผลต่อสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ด้วย ทั้งนี้ มีกรณีที่เกิดขึ้นกับสุนัขสองตัว ที่ตกใจกับเสียงดังจากการยิงแก๊สน้ำตา จนทำให้เกิดอาการผิดปกติทั้งทางสมอง และทางสายตา และไม่สามารถรักษาได้จนถึงทุกวันนี้
ทีมข่าวไทยพีบีเอสเดินทางสำรวจกันที่ซอยวัดแค นางเลิ้ง ที่ได้รับแจ้งว่า เป็นจุดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งพบสุนัขโฟโมสต์ หมาพันธุ์ทางวัยประมาณ 4-5 ปี ที่ต้องมองไม่เห็นจากการออกไปตามหาเจ้าของ ที่กลับบ้านผิดเวลาในวันที่มีการปะทะกัน
ในอดีตโฟโมสต์เป็นที่รู้จักของคนแถวนั้น ด้วยความแสนรู้ที่มันมักจะเดินออกไปหาเจ้าของซึ่งขายของอยู่ย่านนนางเลิ้งเป็นประจำ ทำให้คนที่ทราบข่าวก็รวบรวมเงินส่งโฟโมสต์ไปรักษา สัตว์แพทย์ที่ดูแลคาดว่า สาเหตุที่ทำให้โฟโมสต์ทองไม่เห็นอาจเป็นเพราะความตกใจที่ทำให้ตาพร่ามัว และเห่าด้วยความหวาดระแวง และยังไม่สามารถบอกได้ว่า โฟโมสต์จะกลับมาเดินและมองเห็นเป็นปกติเมื่อไหร่
นอกจากนั้น ยังมีเจ้าดำ สุนัขพันธุ์ไทยที่วิ่งมาหลบเสียงดังจากแก๊สน้ำตา และหลังจากนั้นก็พบว่า มันไม่สามารถเดินได้ตามปกติ และมีอาการหวาดระแวง แต่ยังโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ทหารลงพื้นที่มาให้ยาไปก่อนหน้านี้
ส่วนใหญ่ชาวนางเลิ้งนิยมที่จะเลี้ยงสัตว์อยู่ประจำบ้าน ทั้งหมา, แมว, นก ซึ่งการต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มักเกิดการชุมนุมและเหตุการณปะทะ ก็ทำให้เป็นห่วงสัตวเลี้ยงอยูไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากสมาคมสงเคราะห์สัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ลงพื้นที่สำรวจ ระบุว่า การสำรวจในครั้งนี้จะทำให้เกิดบรรทัดฐานในการดูแลสัตว์เลี้ยงจากการชุมนุม หลังจากเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครนึกถึงมาก่อน