จับตาท่าที
ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า การชุมนุมตลอดทั้งวันนี้ (10 ธ.ค.) กลุ่มกปปส.มีการปักหลักที่เวที 2 จุด คือ ที่แยกนางเลิ้งของแกนนำที่ย้ายมาจากเวทีศูนย์ราชการ สะพานชมัยมรุเชฐ ของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือคปท. และเวทีย่อย 1 จุด ที่กระทรวงศึกษาธิการ ของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ทั้งหมดล้อมรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลทั้ง 4 ด้าน ซึ่งความเคลื่อนไหวหลักยังคงเป็นเวทีที่แยกนางเลิ้ง ที่มีอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นปราศรัยและแถลงจุดยืนทั้งวัน
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกปปส.ยืนยันจุดยืนกปปส.ในขณะนี้ ว่าขอให้รักษาการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามข้อเสนอของกปปส. คือต้องลาออกพร้อมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้พ้นสภาพจากการเป็นรัฐบาลรักษาการ เพื่อเปิดทางให้เกิดภาวะสุญญากาศ ให้วุฒิสภาเสนอชื่อแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งสภาประชาชนได้
นายเอกนัฏยังยืนยันว่า ข้อเสนอสภาประชาชนมีแนวทางที่สามารถทำได้ตามกรอบของรัฐธรรมนูญ และมีนักวิชาการด้านกฎหมายหลายคนให้การรับรอง จึงเห็นว่ารัฐบาลพยายามให้นักกฎหมายและนักวิชาการฝ่ายรัฐบาล มาลดความน่าเชื่อถือต่อการจัดตั้งสภาประชาชนของกปปส.
นอกจากเวทีที่แยกนางเลิ้ง ที่บริเวณแยกสวนมิสกวันต่อเนื่องสะพานมัฆวานรังสรรค์ ตรงแยกจปร. เรื่อยไปจนถึงกระทรวงคมนาคม ยังมีอีก 1 เวทีย่อย คือเวทีของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณอยู่ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ โดยเชื่อมสัญญาณการถ่ายทอดสดไปยังเตนท์ต่างๆบนถนนราชดำเนินนอก
การปราศรัยของกลุ่มนี้สอดคล้องกับการปราศรัยที่แยกนางเลิ้ง คือการให้ผู้สนับสนุนรอดูท่าทีของกลุ่มกปปส. ก่อน 22.30 คืนนี้ รวมไปถึงอธิบายข้อมูลในการจัดตั้งสภาประชาชน ทั้งนี้ยังให้แนวร่วมเขียนข้อมูลกฎหมายที่ต้องการ เพื่อให้นำมารวมรวบ หากสามารถจัดตั้งสภาประชาชนได้ โดยยังคงสนับสนุนการจัดตั้งสภาประชาชนต่อไป พร้อมระบุว่า ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ สิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกว่า ระบอบทักษิณจะหมดไป แต่ไม่ได้ชี้แจงว่า จะเกิดจากวิธีการใดหรือสิ่งใดที่สามารถทำได้
ส่วนกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือคปท. ในเวลา 22.00 น.คืนนี้ แกนนำกลุ่มคปท. นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ และนายอุทัย ยอดมณี จะเข้าร่วมหารือกับแกนนำกปปส.ทั้งหมด เพื่อกำหนดท่าทีหากพ้นกำหนดเวลา 22.30 น. กำหนดขีดเส้นตาย ที่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี หากยังไม่มีท่าทีตอบรับมา จะดำเนินการอย่างไรต่อไป