เผยบังคลาเทศก็เคยเจอแฮกเกอร์เจาะแบงก์ สูญเกือบ 3 พันล้าน

ต่างประเทศ
25 ส.ค. 59
07:49
534
Logo Thai PBS
เผยบังคลาเทศก็เคยเจอแฮกเกอร์เจาะแบงก์ สูญเกือบ 3 พันล้าน

สำหรับการแฮกเอทีเอ็มของธนาคารออมสิน ด้วยวิธีการฝังไวรัสมัลแวร์ ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ไม่ใช่กรณีแรก ที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นเมื่อไม่นานมานี้ ก็เพิ่งมีคดีคึกโครมเรื่องการเจาะระบบขโมยเงินจากธนาคารแห่งชาติบังคลาเทศ ได้เงินไปถึง 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 3 พันล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ธนาคารต่างๆ ทั่วโลก จะตกเป็นเหยื่อของการก่ออาชญากรรมไซเบอร์

เหตุการณ์ขโมยเงินจากธนาคารกลางของบังคลาเทศ เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา แต่คาดว่าผู้ก่อเหตุใช้เวลาวางแผนและดำเนินการนับปี ด้วยการฝังมัลแวร์ เข้าไปในระบบของธนาคารกลางบังคลาเทศ จากนั้นจึงออกคำสั่งระยะไกล ผ่านทางระบบ Swift ซึ่งเป็นระบบโอนเงินข้ามประเทศของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก

โดยเป็นการสั่งโอนเงินหลายสิบครั้งผ่านทางธนาคารกลางสหรัฐ สำนักงานนิวยอร์ก ที่ธนาคารกลางของบังคลาเทศมีบัญชีอยู่ เพื่อให้โอนเงินถึง 951 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 33,000 ล้านบาท ไปเข้าบัญชีบุคคลของธนาคารริซาล คอมเมอร์เชียล แบงก์ คอร์เปอเรชั่นในประเทศฟิลิปปินส์

แต่ระบบพบว่า คำสั่งหลายคำสั่งไม่สมบูรณ์ และธนาคารกลางบังคลาเทศสามารถระงับคำสั่งส่วนใหญ่ได้ คนร้ายจึงสั่งโอนได้ 101 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 3,000 ล้านบาท โดยสั่งโอนไปธนาคารในบังคลาเทศ 20 ล้านดอลลาร์ หรือ 70 ล้านบาท แต่ถูกอายัติไว้ได้

ขณะที่อีก 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,800 ล้านบาท สามารถโอนไปธนาคารในฟิลิปปินส์สำเร็จ ก่อนทะยอยถอนออกไปได้ 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนอีก 22.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น ทางการสามารถระงับธุรกรรมได้ทัน

เงินที่ถอนไปได้ มีการส่งไปฟอกในคาสิโน ซึ่งกฎหมายฟอกเงินของของฟิลิปปินส์ ไม่สามารถบังคับใช้กับคาสิโนได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกเปิดเผยทั่วโลกราวเดือนมีนาคม ซึ่งรัฐสภาฟิลิปปินส์ เปิดการไต่สวนกรณีดังกล่าว

ภายหลังมีการเปิดเผยว่า ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับที่เกิดเหตุขโมยเงินธนาคารกลางบังคลาเทศผ่านโลกไซเบอร์นั้น มีความพยายามขโมยเงินของธนาคารพาณิชย์ 2 ประเทศผ่านไซเบอร์ คือ ธนาคารเทียน ฟอง ของเวียดนาม ในช่วงเดือนธันวาคม 2558 แต่ถูกสกัดไว้ได้ ส่วนอีกแห่งคือธนาคารในประเทศเอกวาดอร์ ปรากฏว่าถูกขโมยเงินไป 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 420 ล้านบาทในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังติดตามตัวผู้ก่อเหตุไม่พบ

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง