ผบ.ตร.สั่งสอบข้อมูลตำรวจเอี่ยว "ไซซะนะ"

อาชญากรรม
7 ก.พ. 60
12:07
3,710
Logo Thai PBS
ผบ.ตร.สั่งสอบข้อมูลตำรวจเอี่ยว "ไซซะนะ"
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้เร่งตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายไซซะนะ ล่าสุดสื่อมวลชนเผยแพร่ข้อมูลว่า คดีนี้อาจมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

วันที่ 6 ก.พ.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมร่วม 3 ฝ่าย จากตำรวจปราบปรามยาเสพติด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดกับนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดชาวลาว 3 ประเด็น คือ คดียาเสพติดในความรับผิดชอบของตำรวจปราบปรามยาเสพติด 8 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 11 คน และต้องเร่งจับกุมอีก 3 คน รวมทั้งตรวจสอบสืบสวนทรัพย์สินต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายอีกหลายรายการ การตรวจอายัดทรัพย์สินต่างๆ อยู่ระหว่างจัดทำบัญชีเป็นรายงานเสนอ ป.ป.ส. เพื่อมีคำสั่งตรวจสอบทรัพย์สิน และการตรวจสอบด้านการเงิน จะส่งให้ ปปง.ตรวจสอบและวิเคราะห์บัญชี เส้นทาง และร่องรอยทางการเงินต่างๆ เพื่อดำเนินการตามมูลฐานความผิดยาเสพติด

พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า คณะกรรมการจะพยายามจัดทำข้อมูลรายละเอียดเรื่องต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ส่วนข้อมูลที่นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง สามีนักแสดง ยืมเงิน 6,000,000 บาท จากนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย ผู้ต้องหาเครือข่ายนายไซซะนะ พบว่าทั้งคู่ให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกัน โดยนายณัฐพล ระบุว่า ให้เงินจำนวนนี้กับนายอัครกิตติ์ เพื่อจัดซื้อรถลัมโบกินี่ ดังนั้นนายอัครกิตติ์ไม่ใช่เจ้าของรถตัวจริง แต่เป็นผู้ครอบครองและดูแลรถแทน

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกบุคคลอีก 3 คน ที่คาดว่าเป็นตัวแทนในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับนายณัฐพล เพื่อเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งติดต่อขอหลักฐานทางการเงินจากธนาคารมาตรวจสอบ

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายนายไซซะนะกับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ว่า ตนเองตั้งข้อสังเกตหลังจากขยายภาพดังกล่าว พบว่า รถยนต์ที่อยู่ด้านหลังลักษณะคล้ายกับมีสติ๊กเกอร์การแข่งขันแรลลี่ หรือคาราวานแรลลี่ จึงได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่า ที่ผ่านมาได้มีการขออนุญาตแข่งขันแรลลี่ข้ามพรมแดนหรือไม่ เพราะโดยปกติจะมีการประสานงานกัน หากมีการจัดแข่งขันแรลลี่อาจจะไม่ต้องลงระบบการเข้า-ออก โดยสั่งการให้มีการตรวจสอบประเด็นดังกล่าว เนื่องจากอาจจะมีขบวนการกระทำความผิด โดยอาศัยช่องว่างในจุดนี้

ทั้งนี้ มีข้อมูลถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556-2559 นายไซซะนะเดินทางเข้าออกประเทศไทย ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ จ.เชียงราย ด่านจังหวัดหนองคาย ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ด่านสุไหงโก-ลก ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหลายครั้ง และเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่๋ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายไซซะนะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยพบข้อมูลหลักฐานว่า มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคนหนึ่ง ทำหน้าที่ฝากรถยนต์หรูบางคันของนายไซซะนะ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง