หมอแสง “เปิดสูตร” ยาสมุนไพรรักษามะเร็ง ใช้ "รำข้าว" เป็นส่วนผสมหลัก

สังคม
9 พ.ย. 60
10:18
40,233
Logo Thai PBS
หมอแสง “เปิดสูตร” ยาสมุนไพรรักษามะเร็ง ใช้ "รำข้าว" เป็นส่วนผสมหลัก
วัตถุดิบสำคัญของสมุนไพรของหมอแสง สมุนไพรที่เชื่อว่าสามารถรักษามะเร็งได้ คือ รำข้าว ผสมกับข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ เห็ดกระถินพิมาน และเกสรพิลันกาสา โดยสมุนไพรดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการขอขึ้นทะเบียนรับรอง

วันนี้ (9 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสงชัย แหเลิศตระกูล เจ้าของสูตรสมุนไพรที่เชื่อว่าสามารถรักษามะเร็งได้ ยอมเปิดสูตรสมุนไพรกับทีมข่าว ส่วนผสมของยาสมุนไพรที่แก้โรคมะเร็ง ประกอบด้วยรำข้าว ร้อยละ 80 เป็นรำข้าวที่ร่อนเอาของไม่ดีและเศษแกลบออก ส่วนอีกร้อยละ20 เป็นข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ เห็ดกระถินพิมาน เกสรพิลันกาสา สมุนไพรดังกล่าวใช้รำข้าวเป็นวัตถุดิบตั้งต้นและผสมวัตถุดิบอื่นๆ จนกว่าจะครบ 6 เดือน ก่อนนำมาอัดแคบซูล

 

พ.ต.อ.ประสาน แก้วมหาสุริวงษ์ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี ระบุว่าการบริหารจัดการเรื่องการลงบันทึกประจำวันเพื่อนำเอกสารไปรับยาสมุนไพร มีจำนวนผู้มาขอใช้สิทธิลงประจำวัน ประมาณ 4,500 คน การบริหารจัดการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค ถึงปัจจุบัน มีคนทยอยมาเรื่อย ๆ วันละ 10-20 คน สะสมขึ้นเรื่อยๆ เป็นหลักร้อย จนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมาประมาณ 2,500 คน


สำหรับเดือนธันวาคมตำรวจขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่จังหวัดปราจีนบุรี หรือจังหวัดใกล้เคียง ให้มาลงบันทึกประจำวันได้ ตั้งแต่วันที่ 11-30 พ.ย. 60 และให้ผู้ที่มาไกลจากต่างจังหวัด มาลงทะเบียนในวันที่ 1-2 ธันวาคม

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการที่ประชาชนจำนวนมาก ไปขอรับยาสมุนไพรของนายแสงชัยถึงจังหวัดปราจีนบุรี ว่าเรื่องนี้เป็นความหวังของผู้ป่วยรักษามะเร็ง ซึ่งในแต่ละปี ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งมากถึง 120,000 คน เสียชีวิต 70,000 คน

กระทรวงสาธารณสุขเคยนำยาของนายแสงชัยมาตรวจแล้ว ซึ่งไม่พบอันตรายในส่วนสเตียรอยด์ หรือยาเพิ่มความอยากอาหาร แต่จะมอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีตรวจเพิ่ม เพื่อหาสารโลหะหนักและแบคทีเรีย รวมทั้งนำยาดังกล่าวมาตรวจสอบ ขึ้นทะเบียนตำรับยา คาดจะใช้เวลานาน ในระหว่างนี้ให้ขึ้นทะเบียนแบบอาหารและยกเว้นการโอ้อวดสรรพคุณ คาดว่าใช้เวลา 1-2 เดือนจะแล้วเสร็จ

รวมทั้งให้นายแสงชัย ขอรับการประเมินเป็นหมอพื้นบ้าน และให้สถานที่จ่ายยามีเจ้าหน้าที่ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย มาช่วยจ่ายยา

นอกจากนี้จะประสาน อย.เข้ามาควบคุมดูแลเรื่องหลักเกณฑ์การแจกของฟรี โดยเฉพาะในกลุ่มยา ซึ่งระหว่างนี้ให้ทางกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย เร่งออกประชาสัมพันธ์ข้อมูลการใช้ยาแพทย์แผนไทย หรือสมุนไพรไทยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง