"ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" เคลื่อนไหว ส่งผลกระทบพรรคเพื่อไทย ?

การเมือง
15 ก.พ. 61
11:44
356
Logo Thai PBS
"ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" เคลื่อนไหว ส่งผลกระทบพรรคเพื่อไทย ?
การประชุมฝ่ายความมั่นคงครั้งล่าสุดนี้ มีรายงานว่า คสช. สั่งการเร่งติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลและกลุ่มบุคคล 3 กลุ่ม ประกอบไปด้วย กลุ่มเคลื่อนไหวภาคประชาชน,กลุ่มฮาร์ดคอทางการเมือง และกลุ่มนักการเมือง

กลุ่มนักการเมืองนั้น รวมไปถึงการปรากฏตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายทักษิณ ชินวัตร และการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบกับอดีตนายกรัฐมนตรี ทั้ง 2 คนด้วย ที่ คสช. ต้องสั่งการเกาะติดความเคลื่อนไหว

มีข้อสังเกตที่ตั้งไว้และให้เกาะติด เพื่อหาคำตอบ โดยเฉพาะคำตอบที่ว่า ทั้ง 3 กลุ่มเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงถึงกันหรือไม่ โดยเฉพาะการปรากฏตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี ทั้ง 2 คน และกรณีที่ คสช.พบข้อมูลว่า อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย บินไปพบปะพูดคุยกับอดีตนายกรัฐมนตรี หรืออดีตผู้นำพรรคทั้ง 2 คนนี้ ที่ฮ่องกง

มีข้อมูลจากการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงล่าสุดว่า คสช.กำชับฝ่ายปฏิบัติเกาะติดความเคลื่อนไหวของ 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มเคลื่อนไหวภาคประชาชนทุกกลุ่ม กลุ่มฮาร์ดคอร์ทุกฝ่าย โดยเฉพาะ นปช. และกลุ่มนักการเมือง-ฝ่ายการเมือง ซึ่งหมายรวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี 2 คนนี้ด้วย โดยตั้งข้อสังเกตถึงการปรากฏตัวของนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ หรือไม่ และหลังการปรากฏตัวที่อังกฤษ จีน หรือที่ญี่ปุ่นแล้ว

ตอนนี้ คสช. มีข้อมูลยืนยันว่า อยู่ที่ฮ่องกง โดยมี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย บินไปหาหลายคน และส่วนใหญ่เป็น อดีต ส.ส.ในพื้นที่อีสานและเหนือ ไม่ใช่แค่นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์เท่านั้น จึงตั้งสมมติฐานไว้ 3 ประเด็น คือ ต้องการเป็นข่าว หรืออาจเพียงการพบปะผู้ใหญ่ที่เคารพ ในวาระตรุษจีน หรืออาจกำลังพูดคุยเพื่อจัดวางผู้นำพรรคคนใหม่ เพราะ 2 อดีตผู้นำพรรค ยังไม่ส่งสัญญาณสนับสนุนทางการเมือง ขณะที่อดีต ส.ส.ต่างก็ต้องการความชัดเจน เพื่อเตรียมพร้อมลงสนามเลือกตั้ง

และถ้าเป็นประเด็นสุดท้าย ..มีข้อสังเกตว่า เพื่อไทยกำลังเหยียบเส้นยาแดงอาจจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง คือกรณีบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิก เข้ามาควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรค ไม่ว่าจะกรณีพรรคยินยอมและผู้หนึ่งผู้ใดเข้ามากระทำการก็ตาม กกต. สามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยสั่งยุบพรรคได้

อาจจะเข้าทาง..ยิ่งกว่า ถ้าตีพฤติการณ์ของ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้น จะถูกตีความและมีเหตุอันเชื่อได้ว่า กระทำการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ซึ่งหากผู้ใดทราบว่าเกิดขึ้น ย่อมมีสิทธิร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการได้ ไม่ว่าจะยื่นผ่านอัยการสูงสุด หรือยื่นโดยตรงจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง หรือจะเข้าข่ายการกระทำการล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ คสช.ได้กำชับฝ่ายความมั่นคงไว้แล้ว และประเด็นนี้ อาจนำมาซึ่งปัญหาและอุปสรรค ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องเจอศึกหนักทางการเมืองมากกว่าศึกในสนามเลือกตั้ง

ถ้าหน่วยงานด้านความมั่นคง มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย มีพฤติการณ์ ตามที่นายกรัฐมนตรี ระบุไว้..ถ้าตีความตามกฎหมายคือ "คดียุบพรรค" ที่ว่าหนักกว่าการจัดทัพเตรียมพร้อมเลือกตั้ง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง