วันนี้ (2 เม.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอพพลิเคชั่น "ฟอเรส ไฟร์" (Forest Fire) ที่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า จัดทำขึ้นเพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนแจ้งข้อมูลและดูข้อมูลเกี่ยวกับไฟป่าที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเห็นภาพรวมของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ขณะที่นายอนุสรณ์ รังสิพานิช รักษาการผู้เชี่ยวชาญพิเศษจิสด้า เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เสี่ยงช่วงที่ผ่านมามี 9 จังหวัดในภาคเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ ลำปาง น่าน ลำพูน แพร่ เชียงราย และพะเยา
ส่วนในปีนี้เกิดไฟป่ากว่า 2,000 จุด น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเกิดไฟป่ากว่า 4,000 จุด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มรณรงค์ป้องกันไฟป่า ตั้งแต่ปี 2557 และทำให้สถานการณ์ไฟป่าลดลงเรื่อยๆ โดยในปีนี้ช่วงที่ต้องเฝ้าระวังและจับตามากที่สุดคือ เดือนเม.ย. สำหรับสถานการณ์ไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า
และอินโดนีเซีย สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะทรงตัว และยังเป็นปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังเช่นกัน
เฝ้าระวังไฟป่า-ปัญหาหมอกควันภาคเหนือต่อเนื่อง
ขณะที่ท้องฟ้าเหนือตัวเมืองจ.เชียงใหม่ ยังมีฝุ่นปกคลุม แต่เริ่มเบาบางลง หลังมีฝนตกลงมา ในวันนี้การตรวจวัดคุณภาพอากาศ พบว่าไม่เกินค่ามาตรฐาน
โดยนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 31 มี.ค.ที่ผ่านมา พบจุดความร้อนหรือฮอทสปอร์ต ประมาณ 100 จุดเท่านั้น ซึ่งลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มากกว่า 500 จุด
ส่วนที่จ.ลำปาง วันนี้ท้องฟ้าโปร่ง คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง หลังทหารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดับไฟป่าที่ลุกไหม้บนดอยพระบาทได้สำเร็จ และมีฝนตกลงมาทำให้สถานการณ์หมอกควันคลี่คลายหลังเกินค่ามาตรฐานมาหลายวัน
ด้านสำนักงานจัดการคุณภาพอากาศและเสียงกรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในภาคเหนือ วันนี้ค่าฝุ่นละอองในอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงปานกลาง ไม่มีจังหวัดไหนคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือเกษตรกรงดเผาซากพืช หรือแปลงเกษตร เพื่อลดปัญหาฝุ่นควัน รวมถึงคนที่อยู่ในเมืองต่างๆ อาจต้องช่วยกันลดมลพิษที่เกิดขึ้นจากรถยนต์ด้วยเช่นกัน รวมทั้งขอให้ช่วยกันสอดส่องหากพบเห็นไฟป่า สามารถแจ้งได้ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ผ่านทางแอพลิเคชั่นของจิสด้า