อัยการสั่งไม่ฟ้อง "ชัยวัฒน์-พวก” คดีฆาตกรรม "บิลลี่”

อาชญากรรม
24 ม.ค. 63
14:08
2,406
Logo Thai PBS
อัยการสั่งไม่ฟ้อง "ชัยวัฒน์-พวก” คดีฆาตกรรม "บิลลี่”
อัยการสั่งไม่ฟ้อง นายชัยวัฒน์ กับพวก คดีหน่วงเหนี่ยวกักขัง-ฆ่า "บิลลี่" โดยสั่งฟ้องเฉพาะข้อหาปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ กรณียึดน้ำผึ้งป่าแล้วปล่อยตัวไปโดยไม่นำตัวส่งให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาลักของป่า ด้าน "ชัยวัฒน์" ระบุขอดูรายละเอียดอีกครั้งยังไม่พร้อมตอบสื่อ

วันนี้ (24 ม.ค.2563) รายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 โดยนายชวรัตน์ วงศ์ธนสมบูรณ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีดีเอสไอ เพื่อส่งคืนสำนวนการสอบสวน จำนวน 17 แฟ้ม ในคดีที่ดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวกรวม 4 คนในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดฐานอื่นๆ กรณีการอุ้มฆ่า นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก –บางกลอย

ซึ่งพนักงานอัยการ ได้พิจารณาสำนวนคดีแล้ว มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายชัยวัฒน์และพวกใน 7 ข้อหาจาก 8 ข้อหา โดยมีความเห็นสั่งฟ้อง นายชัยวัฒน์กับพวก ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 กรณียึดน้ำผึ้งป่าของบิลลี่ แล้วปล่อยตัวไปโดยไม่นำตัวส่งให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาลักของป่า

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 5 ปีไขปมตาย “บิลลี่” แค่เริ่มต้น แต่ยังไม่จบ

 

7 ข้อหาที่สั่งไม่ฟ้อง 

ส่วน 7 ข้อหาที่อัยการ สั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 นายบุญแทน บุษราคัม ผู้ต้องหาที่ 2 นายธนเสฎฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ในข้อหา ดังนี้ 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

2.ข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย 3.ข้อหาร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น

4.ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดติดตัวไปด้วยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 5.ข้อหาร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

6. ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต 7. ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งใดโดยมิชอบข่มขืนใจเพื่อให้บุคคลใดมอบทรัพย์ให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น

 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ดีเอสไอ สรุปสำนวนส่งฟ้อง "ชัยวัฒน์" พร้อมพวก 6 ข้อหาคดีบิลลี่

ปลัด ทส.ชี้ไม่ต้องกู้วิกฤติศรัทธา 

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า รู้ข่าวจากสื่อ มวลชนแล้ว ถือเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมาทาง ทส.ก็ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของกระบวนการสอบสวนมาตั้งแต่เคยมีข่าวว่าข้าราชการของ ทส.ไปเกี่ยวข้องกับคดีของบิลลี่  

การที่อัยการไม่ส่งฟ้องก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ไม่มีผลต่อการย้ายนายชัยวัฒน์ ไปเป็นทสจ.ปัตตานีว่า จะต้องย้ายกลับคืนไปที่สบอ.9 (อุบลราชธานี) เหมือนเดิม เพราะเป็นการย้ายไปในระดับ 9ในตำแหน่งที่ว่างลง ไม่ใช่ย้ายไปช่วยราชการ

เมื่อถามว่าถือเป็นการกู้วิกฤตศรัทธาให้กับ ทส.หรือไม่ เนื่องจากข่าวนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมติดตามคดีอย่างใกล้ชิด  นายจตุพร กล่าวว่า ไม่เคยมีการสูญเสียศรัทธา จึงไม่ต้องเรียกศรัทธาคืนมา เพราะที่ผ่านมาเคยบอกเสมอว่าถ้าข้าราชการ ทส.ไปเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ต้องถูกต้อง ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เรื่องนี้เป็นส่วนบุคคล 

ไม่ถือว่าสูญเสียศรัทธา เพราะถ้ามีข้าราชการเกี่ยวกับประเด็นใดๆ เมื่อมีความเคลือบแคลงสังสัยจากสังคม ทุกคนต้องเข้ากระบวนการปกติของทางระบบราชการ 

"ชัยวัฒน์" ระบุขอดูรายละเอียดก่อน 

ทั้งนี้ไทยพีบีเอสออนไลน์ พยายามสอบถามกับนายชัยวัฒน์ ระบุว่ายังไม่สะดวก ขอดูรายละเอียดทางการก่อน เบื้องต้นเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) เพิ่งเดินทางมาที่ยื่นการผลัดฟ้องครั้งที่ 3 ไปเป็นวันที่ 3 ก.พ.นี้

สำหรับกรณีของนายชัยวัฒน์ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2562 พ.ต.ท.เชน กาญจนปัทม์ ผู้อำนวยการกองปฎิบัติการคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ ระบุว่าดีเอสไอ จะนำสำนวนคดีฆาตกรรมนายบิลลี่ ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาเพื่อสั่งฟ้องคดีต่อศาล

โดยสำนวนคดีของดีเอสไอพร้อมหลักฐานมีจำนวน 17 แฟ้ม 3 ลัง ยืนยันว่าดีเอสไอได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้อย่างละเอียด และครบถ้วนที่สุด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟังชัดๆ ดูเต็มๆ "ชัยวัฒน์" เล่าละเอียด "คดีบิลลี่"

"ดีเอสไอ" ชี้ชัด "บิลลี่" ตาย - หลักฐานถูกเผา 

ย้อน 5 ปีคดี "บิลลี่" ถึงวันที่ "ชัยวัฒน์" มอบตัว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง