วันนี้ (26 เม.ย.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเกา ฝู่ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจีน เปิดเผยว่า วัคซีนตัวแรกจะพร้อมใช้สำหรับกรณีฉุกเฉินเร็วที่สุดในเดือน ก.ย.นี้ เช่น ในกรณีที่เชื้อกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง ก็อาจนำวัคซีนที่อยู่ในระหว่างการทดลองทางคลินิกในเฟส 2 และเฟส 3 มาใช้ หรืออาจนำมาใช้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นกรณีเฉพาะ เช่น กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
โดยล่าสุดจีนมีวัคซีน COVID-19 ที่อยู่ในระหว่างการทดลองทางคลินิก 2 ตัว โดยวัคซีนตัวแรกเป็นชนิดใช้อะดิโนไวรัสเป็นตัวนำพา พัฒนาโดยไชนีส อแคเดมี ออฟ เอนจิเนียริง ซึ่งเริ่มทดลองทางคลินิก เฟส 2 ไปเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา และมีอาสาสมัครเข้ารับการฉีดวัคซีน 273 คน
ส่วนวัคซีนตัวที่ 2 เป็นชนิดเชื้อตายพัฒนาโดยสถาบันยาชีววัตถุอู่ฮั่น ซึ่งเข้าสู่การทดลองทางคลินิก เฟส 2 เมื่อวันศุกร์ที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
อนามัยโลกเตือนไม่ควรออกใบรับรองภูมิคุ้มกัน
ด้านองค์การอนามัยโลกเตือนทั่วโลกว่าไม่ควรออกบัตร หรือใบรับรองผ่านภูมิคุ้มกัน หรือ "immunity passport" เพื่อเป็นหนทางผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ พร้อมทั้งระบุว่าบัตรผ่านภูมิคุ้มกันดังกล่าว อาจทำให้ไวรัส COVID-19 แพร่ระบาดเพิ่มขึ้น
โดยองค์การอนามัยโลกโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าผู้ที่หายจาก COVID-19 และมีแอนติบอดีหรือสารภูมิคุ้มกัน จะไม่กลับมาติดเชื้อซ้ำอีก และจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องนี้
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังเปิดเผยอีกว่าผู้ที่หายจาก COVID-19 มักคิดว่าตัวเองมีภูมิคุ้มกันและเพิกเฉยต่อคำแนะนำในมาตรการควบคุมโรค จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะแพร่กระจายเชื้อ หากมีการออกบัตรหรือใบรับรองผ่านภูมิคุ้มกัน
คำเตือนขององค์การอนามัยโลกมีขึ้นในขณะที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และกำลังพิจารณาจะอนุญาตให้ประชาชนที่หายจาก COVID-19 ออกไปทำงานหรือกลับไปเดินทางได้อีกครั้ง
ล่าสุด ที่สหรัฐอเมริกาพบว่ามีชาวอเมริกันจำนวนมากมาพักผ่อนเล่นน้ำทะเลกันที่ชายหาดในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อคลายร้อน แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต COVID-19 ในสหรัฐอเมริกายังคงพุ่งสูง ซึ่งถือเป็นความพยายามของชาวอเมริกัน บางส่วนที่ต้องการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่สนใจคำเตือนของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขที่ระบุว่าการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ที่เพิ่มมากขึ้นจะให้ COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดรอบใหม่ได้อีก