วันนี้ (27 ต.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายจบ
ส.ส.ดักทางนายกฯ อย่าชิงยุบสภา หวังใช้ รธน.60 กลับมาใหม่
เวลา 10.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นคนผลักไสที่ทำให้เกิดการแบ่งชนชั้น โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยืนยันมีแต่คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างอนาคตไปร่วมกัน ประวัติศาสตร์ ปัจจุบัน อนาคตกำหนดความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนของไทย
สิ่งที่ทำมาอาจจะรู้เท่าไม่ถึงอะไรสักอย่าง ไม่ขอก้าวล่วง แต่สิ่งที่เห็นวันนี้ การทำลายสถาบันครอบครัวเกิดขึ้นในไทยแล้ว ลูกไม่เคารพ พ่อแม่ ลูกศิษย์ไม่เคารพครูบาอาจารย์ ผมถามว่า ถ้าเกิดขึ้นในครอบครัวของท่านจะยอมหรือไม่
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การที่บอกว่าให้ทำ 1 2 3 4 และเคยบอกแล้วว่า เข้ามาด้วยอะไร หน้าที่ตอนนี้ยังไม่จบ ยืนยันไม่ต้องการรักษาอำนาจไว้ให้นานที่สุด เพราะเป็นหน้าที่
ส่วนที่บอกว่าต้นตอของปัญหาทั้งหมด เป็นอำนาจ พูดแต่เรื่องยึดอำนาจรัฐประหาร แต่ไม่เคยพูดถึงเผด็จการรัฐสภา รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ไม่ได้ก้าวล่วงกับรัฐธรรมนูญและประวัติศาสตร์เกิดมาแล้วอย่ามาโยงให้เข้าใจ ถ้าวันนั้นไม่มีการยึดอำนาจอย่างที่ว่า ไม่รู้ว่าจะเกิดจลาจลขึ้นในประเทศหรือไม่ เพราะมีคนสองฝ่ายจำนวนมาก
ตอนผมเป็นผบ.ทบ.มาหาว่า ลำเอียง ผมก็ทำตามมาทุกรัฐบาล มีการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาทุกรัฐบาล มากบ้าง น้อยบ้าง มันเป็นบทเรียน และหลายคนมาบอกว่า ไม่เป็นธรรม ปล่อยปละละเลยบ้าง ต้องขอพูดบ้าง
อย่าลืมว่าประวัติศาสตร์คือปัจจุบันและอนาคต คนไทยทุกคน ศาสนา ทุกเชื้อชาติ ที่สัญชาติอยู่ในประเทศไทย ต้องรักประเทศไทย ผมบังคับไม่ได้ แต่ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า หลายอย่างก่อนที่ผมเข้ามาท่านลืมไปแล้วหรือ สมัยนั้นท่านทำอะไรกัน ที่วุ่นวาย การทุจริตที่มีหลักฐานชัดเจนชิงประจักษ์ถ้าลืมให้ไปทบทวนกัน ใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในปี 2557 และปีก่อนหน้า สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวายอยู่ตอนนี้ ขอให้ช่วยกันทบทวนเพราะอาจจะความจำสั้น