วันนี้ (4 ธ.ค.2563) นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายให้ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมการบินในวงกว้าง โดยเฉพาะปริมาณเที่ยวบินที่ลดลง อย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังส่งผลกระทบต่อรายได้ของบวท. โดยเฉพาะในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินลดลงเหลือเพียงร้อยละ 10 จากที่เคยมีอยู่ประมาณล้านเที่ยวบิน
สำหรับปริมาณเที่ยวบินขณะนี้ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากประมาณวันละ 1,200 เที่ยวบิน ลดลงเหลือประมาณวันละ 480 เที่ยวบิน หรือลดลงร้อยละ 60 จากปริมาณเที่ยวบินปกติ และท่าอากาศยานดอนเมือง จากปริมาณเที่ยวบินปกติประมาณวันละ 800 เที่ยวบิน ลดลงเหลือวันละ 450 เที่ยวบิน หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้หลักของ บวท. อย่างมาก
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของรัฐบาลและไออาต้า ระบุว่า อุตสาหกรรมการบินภายในประเทศจะฟื้นได้ในปี 2566-67 ส่วนเรื่องของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในอนาคต ได้มอบหมายให้ บวท. ไปพัฒนาเตรียมความพร้อมเรื่องเครื่องบิน โดรน ไร้คนขับ
นายถาวร ยอมรับว่า การก่อสร้างหอบังคับการบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ผ่านมาเคยสูงติดอันดับโลก แต่การก่อสร้างกลับขาดการประสานงานกันในเรื่องการออกแบบ เช่น หอบังคับการบินอยู่ตรงไหน เทอร์มินอลอยู่ตรงไหน หลุมจอดอยู่ตรงไหน จนทำให้ขณะนี้บางจุดของหอบังคับการบิน คนทำงานอยู่ข้างบนไม่สามารถมองเห็นเครื่องบินที่จอดที่หลุมจอด
แม้ว่า บวท.จะลงทุนเพิ่มด้วยการติดตั้งซีซีทีวีแต่ก็สู้การมองด้วยสายตาและประกอบกับเทคโนโลยีไม่ได้ จึงเตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกแบบก่อสร้างสนามบิน เพื่อให้วิทยุการบินเข้าไปมีส่วนร่วมในการก่อสร้างตั้งแต่ต้น โดยที่เมื่อสร้างเสร็จจะทำให้ทุกฝ่ายทำงานมีประสิทธิภาพ และเกิดความปลอดภัย 100% ไม่ต้องไปลงทุนเพิ่ม