วันนี้ (21 ธ.ค.2563) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงการดูแลสถานการณ์ COVID-19 ตามแนวชายแดนว่า กองกําลังป้องกันชายแดนของกองทัพบก 7 กองกำลังรอบประเทศที่ครอบคลุม 28 จังหวัดชายแดนมีจำนวนกว่า 30,000 นาย ขณะนี้ได้เสริมกำลังอีก 5 กองร้อย ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ เพิ่มมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง โดยผิดกฎหมายเน้นตรวจจุดผ่านเข้าออกชายแดน โดยเฉพาะตามช่องทางธรรมชาติ
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังกำชับให้ชุดปฏิบัติการชายแดนระดับป้องกันตนเอง หากพบกลุ่มเสี่ยงต้องเพิ่มการป้องกันสูงสุด และใช้กลไกประสานความร่วมมือผ่านคณะกรรมการชายแดน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 138 ครั้ง รวม 279 คน ลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติใน จ.เชียงราย ตาก และกาญจนบุรี ในความรับผิดชอบของกองกำลังนเรศวรและกองกำลังผาเมือง โดยหากพบจะใช้วิธีผลักดันออกไป
จัดกำลัง 2 กองร้อย "ล็อกดาวน์" สมุทรสาคร
ส่วนการสนับสนุนรัฐบาลแก้ไขสถานการณ์ CIVID-19 ที่ จ.สมุทรสาคร กองทัพบกได้จัดกำลัง 2 กองร้อยร่วมกับส่วนต่างๆ ตั้งจุดตรวจสกัดในพื้นที่ ตามมาตรการล็อกดาวน์ จ.สมุทรสาคร สำหรับมาตรการควบคุมดูแลแรงงานข้ามชาติเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง จึงไม่สามารถตอบได้ว่าแรงงานที่ จ.สมุทรสาคร เดินทางเข้าประเทศไทยในช่องทางใด
แต่จากสถิติข้อมูลในภาพรวม พบว่ามีแรงงานข้ามชาติในไทยจำนวน 2.4 ล้านคน ที่ผ่านมาเข้ามาโดยวิธีการที่ถูกต้อง แต่ยอมรับว่าในพื้นที่ตามแนวชายแดนที่มีระยะทางกว่า 5,526 กิโลเมตร มีโอกาสที่จะหลุดรอด เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ และขณะนี้กองทัพบกได้เพิ่มการประสานงานกับตำรวจตรวจจับการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เน้นมาตรการด้านการข่าว
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกก็ได้ยืนยันแล้วว่ากำลังพลตามแนวชายแดนทุกคนทำงานอย่างทุ่มเท ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"สมุทรสาคร" แรงงานติดเพิ่มอีก 127 คน รวม 5 วัน 821 คน
"กระบี่ - สงขลา" เร่งตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยง COVID-19
พิษ COVID-19 ตลาดสดมหาชัยเงียบกริบ จำกัดขาย 6 ชั่วโมง