วันนี้ (5 ส.ค.2564) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ กรมควบคุมโรคได้เร่งป้องกันโรคโควิด 19 ทั่วประเทศ เพื่อค้นหาผู้ป่วย ผู้สัมผัสโรคที่อยู่ในบ้านและในชุมชน เข้าสู่ระบบการดูแลรักษาป้องกันการแพร่เชื้อให้เร็วที่สุด ลดผู้ป่วยรายใหม่ ลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด
ในส่วนกลางได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ส่วนในต่างจังหวัดได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1-12 ร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
เนื่องจากในส่วนของพื้นที่ กทม. ยังพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ในจำนวนเพิ่มขึ้น กรมควบคุมโรคได้มอบหมายให้สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ร่วมกับ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งการตั้งจุดตรวจภาคสนาม เพื่อบริการแก่ประชาชน ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสเชื้อโรค 3 แห่ง คือ สนามกีฬาธูปะเตมีย์ สนามราชมังคลากีฬาสถาน และสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดี สามารถตรวจคัดกรองได้ประมาณ 4,000 คนต่อวัน
โดยใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit ที่สามารถรู้ผลได้รวดเร็ว รายใดที่ผลเป็นบวก จะตรวจยืนยันผลด้วยวิธีอาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR) ด้วยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน และรถเอ็กซ์เรย์ปอดเคลื่อนที่ (เฉพาะจุดสโมสรกองทัพบก) แยกผู้ติดเชื้อตามระดับอาการแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อนำเข้าสู่ระบบการดูแลรักษาที่เหมาะสมตามมาตรฐาน ทั้งที่บ้าน ที่ชุมชน หรือที่ โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
อ่านข่าวเพิ่ม ไทยติดโควิดรายวันเพิ่ม 21,379 คน เสียชีวิต 191 คน
ภาพ:กรมควบคุมโรค
ภาพ:กรมควบคุมโรค
จัด "ซุปเปอร์ไรเดอร์” 60 ชีวิตส่งยากโควิดถึงบ้าน
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย สามารถพักรักษาตัวที่บ้านได้ โดยต้องขึ้นทะเบียนและแยกรักษาตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หรือจนกว่าอาการจะหาย กรมควบคุมโรคได้จัดหน่วยส่งยาด่วน หรือเรียกว่า “ซุปเปอร์ไรเดอร์” ซึ่งเป็นประชาชนจิตอาสาจำนวน 60 คนนำชุดอุปกรณ์และยาไปส่งให้ผู้ติดเชื้อที่บ้าน
ซุปเปอร์ไรเดอร์ จะนำชุดอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดูแลรักษาอาการที่บ้าน เช่น ยาพาราเซตามอล เพื่อลดไข้ ยาฟ้าทะลายโจร ปรอทวัดไข้ เครื่องตรวจวัดออกซิเจนปลายนิ้ว เจลแอลกอฮอล์ ล้างมือ หน้ากากอนามัยไปให้ถึงบ้าน ขณะนี้ส่งมอบไปแล้วกว่า 100 คน
ขณะเดียวกันกรมควบคุมโรคยังได้จัดทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหา COVID-19 เชิงรุก (CCR Team) จากสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง จำนวน 12–15 ทีมร่วมกับ กทม. และเครือข่ายอื่นๆ เข้าค้นหาผู้มีความเสี่ยงที่อยู่ในชุมชนทั้ง 6 โซน ใน 50 เขตของกทม.
แต่ละทีมจะทำการควบคุมโรค ตรวจคัดกรองการติดเชื้อด้วยชุดเอทีเค ได้วันละประมาณ 1,000 คน ฉีดวัคซีนให้กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งประเมินระบบการป้องกันควบคุม COVID-19 ตามพื้นที่เสี่ยงสำคัญ เช่น แคมป์ก่อสร้าง ตลาดสด ชุมชน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
พบเด็กติดโควิดช่วง 1 ม.ค.-4 ส.ค. สะสมกว่า 6.5 หมื่นคน
หมอไทยไม่ให้กิน "โกฐจุฬาลัมพา" แบบเดี่ยว แต่ซื้อมาแล้วควรทำอย่างไร