"สุทิน" ชี้แจงไม่อภิปราย "ประวิตร-สุริยะ-จุรินทร์" หลักฐานไม่พอ

วันนี้ (17 ส.ค.2564) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงผลประชุมวิปว่า เตรียมพร้อมการประชุมสภาผู่แทนราษฎร เพื่อพิจารรณากฎหมายงบประมาณปี 2565 และญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กับการประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ วางกรอบการพิจารณางบฯ วาระที่ 2-3 ไว้ เริ่มประชุม 09.00 น. จบที่ 19.30 น. ช่วง 2 วันแรก วันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายอาจจะดึกหน่อย ซึ่งเชื่อว่าการประชุมจะกระชับขึ้น เพราะประธานสภาฯ กำหนดการอภิปรายรูปแบบใหม่ ให้ ส.ส.อภิปรายสรุปว่าแปรญัตติขอตัดงบส่วนไหนเพราะอะไร

โดยแบ่งเวลาฝ่ายค้านได้ 20 ชั่วโมง รัฐบาลได้ 10 ชั่วโมง ส่วนกรรมาธิการงบประมาณได้เวลา 6 ชั่วโมง โดยฝ่ายค้านและรัฐบาลฝ่ายละ 3 ชั่วโมง และก่อนที่จะโหวตให้ความเห็นชอบกฎหมายงบประมาณในวาระที่ 3 แต่ละพรรคจะหารือถึงแนวทางการโหวต ก่อนที่จะมาสรุปกันอีกครั้งหนึ่งของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน

สำหรับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2-3 รวมถึงญัตติด่วนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลยังไม่มีการลงในรายละเอียดของวิปฝ่ายค้าน แต่จะมีการหารือในสัปดาห์หน้า พร้อมเปิดเผยด้วยว่าบรรยากาศการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยดี

ยอมรับมีปัญหา "ก้าวไกล" ปมรายชื่อ รมต.ที่ยื่นอภิปราย

นายสุทิน ยังกล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งเห็นต่างระหว่างพรรคการเมืองฝ่ายค้าน "เพื่อไทย-ก้าวไกล" ยอมรับช่วงหลังๆ มีปัญหาอยู่เรื่อยจนผิดสังเกต ทั้งรายชื่อรัฐมนตรีที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็ใช้วิธีแก้ปัญหาโดย "กระบวนการกลุ่มของพรรคฝ่ายค้าน 6 พรรคลงมติตัดสินใจ" ซึ่งทำให้ปัญหาความขัดแย้งลดลงและสามารถเดินหน้างานได้

นอกจากนี้ ในการเสนอชื่อรัฐมนตรีที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีการเสนอรายชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทั้งจากคนในพรรคเพื่อไทยเอง คือนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร แต่ถูกตีตกไป รวมถึงเสนอในพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ก้าวไกล ซึ่งเมื่อแสดงความเห็นถึงหลักฐานท้ายที่สุดก็ถูกตีตกไป ยืนยันไม่มีดีลลับอะไร

ในกระบวนการเสนอชื่อยังมีการเสนอรายชื่อของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่เมื่อพิจารณาแล้วยังไม่มีหลักฐานใหม่เพียงพอที่จะอภิปรายจึงตีตกไป ผ่านกระบวนการกลุ่ม

นายสุทิน กล่าวว่า ยอมรับว่ามีการโทรล็อบบี้ "เพื่อไทย-ก้าวไกล" ถอดชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกจากการอภิปราย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ใช้กระบวนการกลุ่มพิจารณา ซึ่งอาจจะไม่ตรงใจทุกคน และการตีตกชื่อ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้มีผลจากการโทรจากนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล

ปฏิเสธรอมชอม หวังจับมือพรรคพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล

ขณะที่ข้อสังเกตที่พรรคเพื่อไทยดูรอมชอมพรรคพลังประชารัฐ หวังจับมือตั้งรัฐบาลในอนาคต นายสุทิน กล่าวว่า เป็นการสร้างวิมานที่ความเป็นไปได้เป็นไปได้ยากมาก เพราะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีคนอยากอภิปรายเยอะ แต่ก็ไม่มีใครเสนอชื่อมา เพราะเพิ่งจะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ได้มีการชี้แจงไปแล้ว และยังไม่มีข้อกล่าวหาอะไรใหม่

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่การที่จะคิดเป็นรัฐบาลแบบไม่ลืมหูลืมตากับพรรคพลังประชารัฐ ที่กำลังถูกกระแสสังคมตำหนิติติงไม่ยอมรับนั้น มองว่าทำไมจะไม่คิดว่าจะได้รับผลกระทบในอนาคต เพราะมีแฟนคลับมวลชนอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะเป็นรัฐบาลมาแล้วหลายสมัย แต่จะไปกระเหี้ยนกระหือรือเป็นรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดยแลกกับความช้ำใจของสมาชิก ใครคิดการเมืองแบบนี้มันไม่คุ้ม เท่ากับไปการฆ่าตัวตาย

ทั้งนี้ ไม่เข้าใจเจตนาถึงปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล เนื่องจากบางเรื่องไม่ควรที่จะหยิบยกมาเป็นปัญหา ซึ่งวิเคราะห์อยู่ว่าแรงจูงใจที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้คืออะไร เพราะไม่มีมูลเหตุ โดยพรรคการเมืองฝ่ายค้านนัดหารือรอบสุดท้าย ก่อนที่จะยื่นจะญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกับประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่พรรคก้าวไกลไม่เข้าร่วม ยืนยันเพื่อไทยระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องกระทบกระทั่งระหว่างกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ก้าวไกล" ยืนยันไม่ลดความเข้มข้นอภิปราย

ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ "นายกฯ-5 รมต."

"ราเมศ" ย้ำไม่กังวลฝ่ายค้านยื่นอภิปราย "เฉลิมชัย"