"พิจารณ์" ชงตัดงบฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติซื้อปืนเพิ่ม 7,000 กระบอก

การเมือง
21 ส.ค. 64
15:18
986
Logo Thai PBS
"พิจารณ์" ชงตัดงบฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติซื้อปืนเพิ่ม 7,000 กระบอก
"พิจารณ์" ท้วงสภาฯ ผ่านงบฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อปืน 7,000 กระบอก หากเมื่อใดปืนนั้นหันเข้าหาประชาชน จะถือว่ามีเลือดในมือทุกคนที่เห็นชอบ พร้อมชำแหละข้อมูลจัดซื้ออาวุธของตำรวจไทยตามสัดส่วนประชากร พบมีมากกว่าสหรัฐฯ ถึง 5 เท่า

วันนี้ (21 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ในมาตรา 27 งบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวงและหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรี จำนวน 37,372,062,700 บาท ต่อมาที่ประชุมฯ มีมติ 244 ต่อ 119 เสียง เห็นด้วยกับการปรับลดงบฯ ของส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ตามที่ กมธ.เสนอ

ตร.ไทยซื้อปืนตามสัดส่วนประชากรมากกว่าสหรัฐฯ 5 เท่า

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.ก้าวไกล อภิปรายพุ่งเป้าไปที่งบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้รับการจัดสรรงบ 32,776 ล้านบาท ซึ่งมีรายการจัดซื้ออาวุธสงคราม 3 รายการ คือ ปืนเล็กสั้น 1,000 กระบอกปืนเล็กยาว 2,000 กระบอกและปืนกลมือ 4,000 กระบอก รวม 7,000 กระบอก


นายพิจารณ์ ยกตัวอย่างในต่างประเทศการสะสมอาวุธสงครามจำนวนมาก ไม่ได้ช่วยลดการเกิดเหตุอาชญากรรม แต่กลับมีแนวโน้มการใช้ความรุนแรงเกินเหตุกับประชาชน โดย 25 ปี สหรัฐฯ ซื้อปืนให้ตำรวจ 78,619 กระบอก คิดเป็น 24 กระบอกต่อ 1 แสนประชากร

ส่วนไทย 5 ปี 2561 - 2565 ไทยซื้อปืนให้ตำรวจ 80,303 กระบอก หรือ 116 กระบอกต่อ 1 แสนประชากร สรุปตำรวจไทยสะสมอาวุธต่อประชากรมากกว่าตำรวจสหรัฐฯ ถึง 5 เท่า ในเวลาที่เร็วกว่า 5 เท่า ซึ่งนายพิจารณ์ มองว่า การจัดซื้อปืน 7,000 กระบอก มีมากเกินไป และตั้งคำถามถึงการเร่งรีบลงนามจัดซื้ออาวุธปืน


ช่วงท้ายการอภิปราย นายพิจารณ์ยังได้เปิดคลิปเหตุการณ์ตำรวจควบคุมฝูงชนใช้ปืนกระสุนยางยิงประชาชนระยะประชิด เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมแสดงความกังวลว่า ตำรวจมีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรงกับประชาชนจากการสะสมอาวุธสงคราม

วันใดที่ปืนหันปลายกระบอกเข้าหาประชาชน ในวันนั้นเลือดจะอยู่ในมือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนที่เห็นชอบให้งบประมาณนี้ผ่านไป


"จิรายุ" ชงตัดงบฯ ตร.ทางหลวง-ท่องเที่ยว

จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.เพื่อไทย ขอลดงบฯ 10% ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เนื่องจากพบว่าตำรวจทางหลวงขอใช้งบฯ ร่วมกับกรมทางหลวง ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวขอใช้งบฯ ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว ดังนั้น หลายหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปของบจากหน่วยงานอื่นด้วย จึงสมควรถูกปรับลด

"เรืองไกร" สงสัย ตร.ตั้งงบฯ ราชการลับ 21 ล้าน

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะ กมธ.ขอปรับลดงบฯ ราชการลับ 21 ล้านบาท พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการตั้งงบราชการลับ 2 รายการ ในงบฯ รายจ่ายอื่น คือ แผนงานพื้นฐานด้านความมั่นคง 50 ล้านบาท และยุทธศาสตร์รักษาความสงบภายในประเทศ 160 ล้านบาท

"วิสาร" ลั่น คฝ.คุมฝูงชนยิงกันเหมือนหนังคาวบอย

วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เพื่อไทย ขอปรับลดงบฯ 13% โดยเฉพาะงบฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุ "การควบคุมฝูงชน ไม่มีมาตรการสากล ยิงกันเหมือนหนังคาวบอย บางคนถูกยิงตาบอด เยาวชน 15 ปีอาการโคม่า" ภาพเหล่านี้ กมธ.ได้ถามสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่


ส่วนงบฯ สำนักพระพุทธศาสนา จัดงบฯ แต่ละครั้ง อุดหนุนแบบกระจุด วัดพระอารามหลวงใหญ่ ๆ ก็ยังได้ 10-20 ล้านบาท แต่บางวัดในต่างจังหวัดที่ทำตามประกาศสำนักพุทธฯ ไม่ออกไปบิณฑบาต แต่ยังต้องช่วยโยมทำกับข้าว ดูแลผู้ป่วยโควิด จะเอาเงินที่ไหน

"ณัฐชา" ชงหั่นงบ คฝ.ชี้ซื้ออาวุธมาใช้กับประชาชน

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.ก้าวไกล อภิปรายว่า งบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 32,000 ล้านบาท ถูกปรับลดไป 55 ล้านบาท ไม่ทราบว่าตั้งมาเพื่อต่อหรืออย่างไร ซึ่งการออกมาชุมนุมของกลุ่มเยาวชนขณะนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างยิ่ง เพราะใช้ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) เข้ามาควบคุมสถานการณ์และเกิดความรุนแรงขึ้น โดยทำงานเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชน

การออกมาเรียกร้องของเยาวชนเพื่อหาทางรอดจากวิกฤตและความล้มเหลวต่าง ๆ ของผู้บริหารราชการแผ่นดิน นี่คือความเจ็บปวดที่ออกมาเรียกร้องท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด

หลังประกาศยุติชุมนุมความรุนแรงเกิดขึ้นทุกวัน และสภาฯ แห่งนี้ควรอนุมัติเงินให้ตำรวจไปซื้อยุทโธปกรณ์มากน้อยเพียงใด “สถานการณ์การชุมนุมมีการพูดว่ายิงเลยตรงนี้กระสุนไม่อั้น ตอนนี้ไม่ใช้หลักสากล แต่เป็นหลักสาแก่ใจมากกว่า"


นายณัฐชา ระบุว่า ปีนี้ คฝ.ของบฯ กระมิดกระเมี้ยนมาแค่ 3 ล้านบาท ซื้อแผงเหล็ก แต่ปีที่แล้วขอ 883 ล้านบาท ไปซื้ออาวุธมาใช้กับประชาชน "ถ้าเป็นผมจะไม่อนุมัติให้แม้แต่บาทเดียว”

"พิเชษฐ์" ชงสำนักพุทธฯ ช่วยวัดเผาศพโควิด

พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เพื่อไทย ขอปรับลด 7% โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุ ปัจจุบันไทยมีกำลังพล 212,982 นาย แต่ปัญหาอาชญากรรยังมีมากมาย จึงควรลดกำลังตำรวจครึ่งหนึ่ง แล้วนำเงินไปสนับสนุนสวัสดิการตำรวจที่เหลือทั้งที่พัก-เบี้ยเลี้ยง ลงทุนกับเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ส่วนสำนักพุทธศาสนา ไม่ควรให้พระสงฆ์ทำบัญชีส่งทุกปี แต่ควรสนับสนุนวัคซีน เงินเยียวยา และอุปกรณ์ให้วัดที่เผาศพ COVID-19 ทั้งค่าใช้จ่าย น้ำมัน ไฟฟ้า จะให้วัดไปขอจากญาติพี่น้องศพโควิดเขาก็เดือดร้อนที่สุดแล้ว มาถึงก็เผาแทบจะไม่ได้ทำพิธี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สภาฯ จวก สธ.ปม "ATK-วัคซีน" ตั้งงบฯ ซื้อ "ครุภัณฑ์-ก่อสร้าง" ไม่สนโควิด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง