ฝ่ายค้านตั้งคำถาม ส่วนต่างซื้อ "วัคซีนซิโนแวค" อยู่ที่ใคร?

วันนี้ (31 ส.ค.2564) เวลา 10.55 น. ในการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วิกฤตโควิด-19 เกิดจากการบริหารของนายกฯ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิท 19 เริ่มลดลงช่วงใกล้อภิปรายอย่างมีนัยยะ จึงคิดว่าเป็นการปรับปรุงตัวเลขให้ดูดีหรือไม่

จวกนายกฯ ละละเลยจนเกิดคลัสเตอร์ใหญ่

นายประเสริฐกล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข เคยให้สัมภาษณ์ว่า โควิดเป็น "โรคหวัดโรคหนึ่ง" เมื่อบุคลากรติดเชื้อก็บั่นทอนจิตใจเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่า "หมอไม่ระวังตัวติดโควิด-19 ไม่ได้ติดจากการทำงาน แบบนี้ต้องหวดกัน"

นายอนุทินระบุว่า ไตรมาส 3 วัคซีนแอสตราฯ ผลิตในไทยอยู่เต็มแขนของคนไทยแล้ว เต็มแขนเหมือนกัน แต่ยายที่ อ.นางรอง ได้รับวัคซีน 2 เข็ม ฉีดแขนซ้ายและขวาในวันเดียว

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยปละละเลยให้เกิด 4 คลัสเตอร์ใหญ่ ทั้งคลัสเตอร์สนามมวยลุมพินี คลัสเตอร์บ่อนการพนัน คลัสเตอร์สมุทรสาคร และคลัสเตอร์ทองหล่อ

ท่านอย่าโทษประชาชน เพราะหน่วยงานรัฐเป็นต้นตอของการระบาดที่ไม่กวดขันและกำกับดูแล

ซื้อซิโนแวคแบบไม่ทำจัดซื้อจัดจ้าง

วัคซีนซิโนแวค เป็นวัคซีนเส้นใหญ่ หลีกเลี่ยงการจัดซื้อจัดจ้างตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และการจัดซื้อซิโนแวคเป็นการจัดซื้อแบบเชิงพาณิชย์ ให้องค์การเภสัชกรรมเป็นนายหน้าค้าความตาย ไม่ใช่การจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (G TO G) เนื่องจากเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 6.8 ล้านบาท

นายประเสริฐอภิปรายว่า ตั้งข้อสังเกตว่า องค์การเภสัชกรรม แนะนำให้ซื้อวัคซีนเชื้อตาย เหตุใดไทยไม่ซื้อซิโนฟาร์ม ที่ผลิตโดยรัฐวิสาหกิจจีน ซื้อแบบรัฐต่อรัฐได้ แต่ไปซื้อซิโนแวคซึ่งเป็นบริษัทเอกชนในจีน

นายกฯ และ รมว.สาธารณสุขซื้อซิโนแวคทั้งที่ WHO ยังไม่รับรอง สะท้อนให้เห็นพฤติการจัดซื้อรวดเร็ว-เร่งรีบตั้งแต่เจรจาจนส่งมอบ ไม่เหมือนวัคซีนชนิดอื่น

 

จากนั้น นายศุภชัย ใจสมุทร ลุกขึ้นประท้วงว่า มีการพูดด้อยค่าวัคซีน ทั้งยังกล่าวถึงบุคคลภายนอกอย่าง "องค์การเภสัชกรรมค้าความตาย" ซึ่งเป็นการอภิปรายที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับ ขอให้ประธานสภาฯ กำชับด้วย

สุดท้าย นายชวน หลีกภัย ประธานที่ประชุม ได้เตือนว่า ให้อภิปรายโดยให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ส่วนบุคคลภายนอกหากเป็นองค์กรอยู่ในความดูแลของกระทรวง สามารถอภิปรายถึงได้ เพราะกระทรวงชี้แจงได้ แต่ขออย่าใช้คำหยาบคาย

สงสัยส่วนต่างซื้อ “ซิโนแวค” หายไปไหน

นายประเสริฐกล่าวว่า 7 หน่วยงานทักท้วงและเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค 10.9 ล้านโดส เพื่อให้ซื้อวัคซีนอื่นควบคู่ไปด้วยเพื่อต่อสู้กับเชื้อสายพันธุ์เดลตา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน กลับมีเจตนาพิเศษ ไม่ระงับยับยั้งการจัดซื้อซิโนแวค 10.9 ล้านโดสตามที่มีข้อทักท้วง

นายประเสริฐอภิปรายว่า เอกสารจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า การซื้อวัคซีนซิโนแวค ครั้งที่ 1 ซื้อ 2 ล้านโดส ไทยได้รับ 1.9 ล้านโดส ซื้อในราคา 17 เหรียญสหรัฐฯ ตาม ครม.อนุมัติ

ซื้อครั้งที่ 2 ครม.อนุมัติ 17 เหรียญสหรัฐฯ แต่บริษัทขายให้ไทย 15 เหรียญสหรัฐฯ ในล็อตนี้มีส่วนต่าง 2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อโดส
ซื้อครั้งที่ 3 ครม.อนุมัติ 17 เหรียญสหรัฐฯ แต่ซื้อจริง 14 เหรียญสหรัฐฯ
ซื้อครั้งที่ 4 ครม.อนุมัติ 17 เหรียญสหรัฐฯ แต่บริษัทขายให้ 9.5 เหรียญสหรัฐฯ
ซื้อครั้งที่ 5 ครม.ยังยืน 17 เหรียญสหรัฐฯ บริษัทขายให้ 9 เหรียญสหรัฐฯ

ราคาตามที่ ครม.อนุมัติคิดเป็น 10,846 ล้านบาท ราคาจัดซื้อจริง 8,748 ล้านบาท ส่วนต่าง 2,098 ล้านบาท เงินตรงนี้อยู่ที่ไหน ในกระเป๋าเงินใคร

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า บันทึกใน กมธ.สามัญ คุ้มครองผู้บริโภค เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2564 ก็มีข้อมูลสอดคล้องกัน โดยระบุว่า มีการจัดซื้อซิโนแวค 18.5 ล้านโดส โดยซื้อขายครั้งต่อครั้ง และไม่ได้ลงนามในสัญญาจ้าง โดยบริษัทซิโนแวคได้ลดราคาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุด ครั้งที่ 5 อยู่ในราคา 9 เหรียญสหรัฐฯ ไม่ได้ขายในราคา 17 เหรียญสหรัฐฯ เหมือนในครั้งแรก

ส่วนการจัดซื้อซิโนแวคล็อต 10.9 ล้านโดส มีการจัดซื้อ 3 ครั้ง บริษัทคิดค่าวัคซีน ครั้งที่ 1 14 เหรียญ ครั้งที่ 2 คิด 9.5 เหรียญ และครั้งที่ 3 คิด 9 เหรียญ เมื่อนำผลต่างมาคิดเป็นเงินไทย 1,603 ล้าน เงินจำนวนนี้อยู่ในกระเป๋าใคร ทำไม ครม.ไม่อนุมัติงบฯ ตามความเป็นจริงที่บริษัทขายให้ นายกฯ ต้องตอบว่ามีส่วนต่างหรือไม่ และให้นำเอกสารมาแสดงต่อที่ประชุมด้วย ถ้าวันนี้ชี้แจงไม่ได้ ผมว่าท่านตั้งใจโกงนะ

ทำไม ครม.ไม่อนุมัติงบฯ ตามความเป็นจริงที่บริษัทขายให้ นายกฯ ต้องตอบว่ามีส่วนต่างหรือไม่ และให้นำเอกสารมาแสดงต่อที่ประชุมด้วย ถ้าวันนี้ชี้แจงไม่ได้ ผมว่าท่านตั้งใจโกงนะ

ส่วนวัคซีนแอสตราเซเนกา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่บริหารความเสี่ยง แทงม้าตัวเดียว การดำเนินการจัดซื้อเป็นการซื้อล่วงหน้า จ่ายเงินก่อน 60 % ของมูลค่าวัคซีนทั้งหมด ภายใต้เงื่อนไข จะได้รับหรือไม่ได้รับวัคซีนขึ้นอยู่กับผลการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นการทำสัญญาที่รัฐเสียเปรียบอย่างยิ่ง ไทยต้องเสียค่าจอง 2,000 ล้านบาท ถ้าบริษัทแอสตราฯ พัฒนาวัคซีนไม่ได้ และไม่มีข้อกำหนดว่าจะจัดส่งวัคซีนได้ ไม่มีการระบุเวลาและจำนวนในสัญญา

นายประเสริฐอภิปรายด้วยว่า วัคซีนแอสตราฯ ทุก 3 ล้านโดส 1 ล้านโดสฉีดในไทย 2 ล้านโดสฉีดในต่างประเทศ ข้อตกลงแบบนี้ทำได้อย่างไร เหตุนี้ท่านถึงนำวัคซีนซิโนแวคเข้ามา ข้อตกลงนี้ทำให้ไทยบริหารจัดการวัคซีนอยู่บนความไม่แน่นอน ทำไมคนไทยไม่ได้ฉีดวัคซีนสักที ทั้งที่มีโรงงานผลิตวัคซีนในประเทศ

กลืนน้ำลายตัวเอง และจัดหาวัคซีนไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง กีดกันวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า มีพฤติกรรมค้าความตาย หาผลประโยชน์ต่อความทุกข์ของประชาชน

นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า ไม่ระวังการทำสัญญา การทำสัญญาเสียเปรียบทำให้ประเทศขาดแคลนวัคซีน ประชาชนส่งสัญญาณบอกว่าไม่เอาท่านแล้ว การบริหารแผ่นดินล้มเหลวทั้งภาวะปกติและภาวะวิกฤต

ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้อภิปรายเพื่อชี้ให้เห็นว่า นายกฯ ควรแสดงความรับผิดชอบในการลาออกจากตำแหน่งนายกฯ และ นายอนุทิน ต้องรับผิดชอบด้วยการรอออก ไม่ต้องคอยให้ปลัดฯ เดินมาบอกว่า ไม่เอาท่านแล้ว ทำไมไม่ฟังเสียงประชาชน ผมไม่ไว้วางใจให้ท่านบริหารประเทศอีกต่อไป

และขอเรียกร้องเพื่อนสมาชิกว่า วันนี้ประชาชนไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์แล้ว พวกท่านยังจะเอา พล.ประยุทธ์ อีกหรือ