นายกฯ ขอระวังคำพูดอย่าด้อยค่าวัคซีน หวั่นกระทบนำเข้า

การเมือง
2 ก.ย. 64
12:58
387
Logo Thai PBS
นายกฯ ขอระวังคำพูดอย่าด้อยค่าวัคซีน หวั่นกระทบนำเข้า
"พล.อ.ประยุทธ์" ชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ ปมจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ราคาแพง ระบุขึ้นอยู่กับผู้ขาย เตือนให้ระวังพูดด้อยค่าวัคซีนอาจกระทบการนำเข้า เทียบตัวเลขคนติดเชื้อ-ตายของไทยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก

วันนี้ (2 ก.ย.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เวลาประมาณ 10.50 น. กล่าวถึงการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า การระบาดระลอกแรก มีการปรับกลยุทธ์รับมือสายพันธุ์เดลตา โดยมาตรการภาพรวมคือ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และมาตรการส่วนบุคคลคือ สวมหน้ากากอนามัย เว้ยระยะห่าง ซึ่งผลการดำเนินการในช่วงแรกสามารถควบคุมการแพร่เชื้อจากต่างประเทศและควบคุมการระบาดในประเทศได้ ใช้เวลาประมาณ 70 วัน

ระลอกที่ 2 ใช้เวลา 3 เดือน เน้นมาตรการบับเบิล แอนด์ ซีล คุมการระบาดในพื้นที่ที่พบไม่ให้แพร่เชื้อวงกว้าง และมีการกระจายอำนาจให้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิจารณามาตรการเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังเพิ่มการตรวจหาเชื้อเชิงรุก สอบสวนโรค รวมถึงการจัดตั้ง รพ.สนาม ทำให้สามารถควบคุมการระบาดได้ในเวลาประมาณ 80 วัน

ต่อมาช่วงเดือน พ.ค. มีความจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อให้รับมือไวรัสกลายพันธุ์เดลตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มพบการระบาดในไทยกลางเดือน ก.ค. นอกจากนี้มีการแบ่งระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาด และล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม

มีหลายคนในสภาฯ พูดว่าการล็อกดาวน์ไม่ได้ผล มีการแพร่ระบาดไปในจังหวัดภูมิลำเนา ยืนยันว่า มีการตรวจสอบ คัดกรองและกักตัว ไม่ได้ปล่อยปละละเลยตามที่มีการกล่าวอ้าง

นายกฯ ปัดรวบอำนาจที่ ศบค. ทุกเรื่องจบที่ ครม.

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ระบบสาธารณสุขใน กทม.แตกต่างจากส่วนภูมิภาค จึงพยายามเข้าไปช่วยเหลือ โดยมีการจัดตั้ง ศบค.ร่วมกัน เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน

"วันนี้เราจัด ศบค.กทม.เขต ไม่ใช่เพื่อใช้อำนาจของผมไปสั่งอะไรใคร ซึ่งเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่า ศบค.มีหน้าที่ในการบูรณาการ ซึ่งจะไม่มีผลในเชิงปฏิบัติ ตราบใดที่ยังไม่เข้า ครม. ดังนั้นการที่ผมเซ็นรับทราบไป คือการรับทราบผลการประชุมเท่านั้น"

นอกจากนี้มีการเร่งระดมตรวจหาเชื้อในชุมชนโดยทีมแพทย์ชนบท และมีภาคเอกชนร่วมด้วย และมีการปล็ดล็อกให้ใช้ ATK ในการตรวจ เพื่อลดคอขวดในการรอตรวจ RT-PCR

ส่วนค่าต่างๆ ที่ ส.ส.กล่าวถึงในสภาฯ รมว.สาธารณสุขได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็สามารถชี้แจงใหม่ได้ แต่อยากให้เข้าใจว่า การนำเข้าวัคซีนต้องมีบริษัทในประเทศไทยรองรับ เพราะเป็นการเจรจาระหว่างรัฐต่อรัฐ หากนำเข้ามาจากต่างประเทศ ตามกฎหมายก็ต้องมีบริษัทรองรับ เพื่อการบริหารจัดการในประเทศ

พูดอะไรก็ระมัดระวังไว้ด้วย ถ้าเขาทำถูกต้อง ไม่มีปัญหาอะไรในเชิงกฎหมาย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำเรื่อง ATK ว่า ในเอกสารที่บอกว่านายกฯ เห็นชอบ หมายถึงเห็นชอบให้นำเรื่องต่างๆ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นบทบาทการทำหน้าที่ปกติของนายกฯ

เรื่องนี้เป็นเพียงการรายงานผลการดำเนินการของ ศบค.เพื่อทราบ ไม่ใช่เพื่อพิจารณา ส่วนที่ประชุมจะมีข้อสังเกตหรือข้อคิดเห็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยืนยันว่าไม่มีการพูดตรงนี้จากการอัดเทปอะไรต่างๆ แล้วทั้งหมด

"อันนี้เป็นตัวอย่างอันหนึ่ง การที่เอาเอกสารมา เอาอะไรมา ให้ระมัดระวังด้วยแล้วกัน เมื่อวานนี้ก็ชี้แจงไปแล้วว่ามีการเอาเอกสารเท็จมาชี้แจงในสภาฯ เรื่องของกระทรวงกลาโหม"

นายกฯ หวั่นพูดด้อยค่าวัคซีนอาจกระทบนำเข้า

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องจำนวนวัคซีน ว่า เรื่องตลาดวัคซีนเป็นเรื่องของผู้ขาย ไม่ใช่เรื่องของผู้ซื้อ เพราะฉะนั้นต้องระวังการพูดจาด้อยค่า เพราะอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากสุดท้ายประเทศเขาไม่ส่งมาจะทำอย่างไร

ที่ผ่านมาเราก็ฉีดวัคซีนที่ท่านด้อยค่ามาเป็นจำนวนมาก ก็ลดอัตราการป่วยการตายไปมาก หลายคนในสภาฯ ก็ฉีด ข้างนอกก็ฉีดเยอะแยะ วันนี้ก็ฉีดไป 30 กว่าล้านคนแล้ว

ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางในการติดต่อกับผู้นำประเทศผู้ผลิตวัคซีน และผู้บริหารบริษัทผลิตวัคซีน เพื่อให้มีการร่วมมือกันในเรื่องการจัดซื้อ จัดหา รวมถึงแลกเปลี่ยนวัคซีนด้วย

ประเทศไทยโชคดีที่ได้รับเลือกเป็นฐานการผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกา เพื่อกระจายในตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน แม้วันนี้อาจจะยังผลิตได้น้อย แต่เราก็ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้ในอนาคต ส่วนการเลือกตัดสินใจว่าจะให้ใครผลิต เป็นการตัดสินใจของบริษัท ไม่ใช่รัฐบาล

ส่วนการที่รัฐบาลเลือกเจรจาซื้อวัคซีนโดยตรงจากแอสตราเซเนกา เพื่อใช้เป็นวัคซีนหลักในประเทศ และเสริมด้วยซิโนแวค ซึ่งในบางครั้งที่มีราคาสูงก็ขึ้นอยู่กับผู้ขาย ส่วนที่ในสภาฯ มีการกล่าวอ้างจำนวนเท่านั้นเท่านี้ดอลลาร์นั้น เป็นการอนุมัติในกรอบวงเงิน

เขาจะขายเท่าไหร่ ลดราคาเท่าไหร่ ก็เบิกงบประมาณมาเท่านั้น รัฐบาลไม่ได้เอาเงิน 17 ดอลลาร์ให้กับกระทรวงสาธารณสุข ผมย้ำตรงนี้ ทุกอย่างเป็นอย่างนี้หมด ถ้าท่านเอาทุกอย่างมาประมวลรวมมั่วไปหมด มันทำให้เกิดความเข้าใจผิด

ย้ำไม่เข้าร่วมโคแวกซ์ ไม่ใช่ความผิดพลาด

พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำเรื่องการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ตั้งแต่แรก ว่า คิดว่า ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาด เนื่องจากต้องรับฟังและพิจารณาอย่างรอบคอบจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถคงผลได้ผลเสียของประเทศชาติในภาพรวม

ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนเอง ทำให้ในช่วงเวลานั้น หากเข้าร่วมโครงการจะต้องวางเงินมัดจำในวงเงินที่สูง และมีเงื่อนไขจำกัดหลายอย่าง อีกทั้งยังไม่สามารถกำหนดเวลาในการรับวัคซีนได้อีกด้วย

ในส่วนของโคแวกซ์ที่ตกลงไว้กับประเทศต่างๆ ก็ยังไม่สามารถจ่ายวัคซีนได้ตามที่ต้องการ เลือกวัคซีนเองไม่ได้ แต่ปัจจุบันก็มีการเปลี่ยนแปลงกติกาหลายอย่าง ซึ่งไทยก็พิจารณาเข้าไปร่วมได้หากมีความพร้อม แต่หากคาดหวังจากโครงการโคแวกซ์เพียงที่เดียว อาจเกิดความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ เนื่องจากยังมีหลายประเทศได้รับวัคซีนไม่ครบ หลายประเทศกักตุนวัคซีนจนมากเกินพอ ก่อนที่จะทยอยให้กับประเทสต่างๆ ที่จองผ่านโคแวกซ์ในภายหลัง

ส่วนหลายประเทศในอาเซียนที่เข้าร่วมโคแวกซ์ ได้รับวัคซีนแล้วถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมากก บางประเทศได้เพียงหลักแสน หรือหลักล้านต้นๆ เมื่อเทียบกับจำนวนที่จองกับจำนวนที่ด้รับจริง

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ตอบคำถาม ทำไมรัฐบาลใช้ "ซิโนแวค" ว่า เพราะพิจารณาผลข้างเคียงมีน้อย อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ และเราสามารถสั่งซื้อได้ตามจำนวนที่ต้องการ

เทียบตัวเลขติดเชื้อ-ตายของไทยกับประเทศที่ฉีด "โมเดอร์นา"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความสำเร็จในการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ว่า ผลจากการปรับมาตรการตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. โดยตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. มีคนหายป่วยกลับบ้านสูงขึ้นกว่าผู้ป่วยรายใหม่ ส่วนคนที่รักษาในโรงพยาบาลลดลงต่อเนื่อง จาก 80,00 คนเหลือ 14,000 คนในวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ถือว่ามาตรการมีประสิทธิภาพพอสมควร

ตลอดระยะเวลา 1 ปี 8 เดือน ไทยรับมือการระบาดระลอกนี้ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก แต่ไม่ดีอย่างที่ทุกคนต้องการได้ ขอให้พิจารณาข้อมูลเชิงสถิติ เพื่อประมวล วิเคราะห์และสรุป

ตัวเลขการติดเชื้อและอัตราการตายสะสมต่อประชากร 1 ล้านคน ทั่วโลกติดเชื้อมากกว่า 217 ล้านคน คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 2.8 % และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 4.5 ล้านคน คิดเป็น 2.1 % ของผู้ติดเชื้อ ส่วนไทยอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 1.8 % อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 0.96 % ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลก

เมื่อเปรียบเทียบไทยกับประเทศสำคัญ ตัวเลขการติดเชื้อสะสมต่อประชากร 1 ล้านคน ในช่วงวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ไทยติดเชื้อ 16,548 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 27,848 คน และต่ำกว่าประเทศหลักที่มีอัตราการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาเป็นจำนวนมาก เช่น อิสราเอล ติดเชื้อ 118,979 คน สหรัฐอเมริกา 116,427 คน สหราชอาณาจักร 98,669 คน ซึ่งเรายังไม่พอใจ ต้องลดให้ได้มากที่สุดต่อไป

ตัวเลขการเสียชีวิตสะสมต่อประชากร 1 ล้านคน ประเทศไทยอยู่ที่ 155 คน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก 549 คน ต่ำกว่าประเทศหลักที่มีอัตราการฉีดโมเดอร์นาเป็นจำนวนมาก เช่น สหราชอาณาจักร 1,945 คน สหรัฐอเมริกา 1,917 คน อิสราเอล 791 คน ซึ่งประเทศเหล่านี้ก็ยังหยุดไม่ได้เหมือนกัน

สรุปไทยมีอัตราการตายที่ต่ำมาก เราต้องทำให้ไม่ตาย ผมเห็นใจกับทุกคน เราต้องมองโลกภายนอกเขาด้วย ถ้ามองแต่ตรงนี้ ตีกันตรงนี้ อะไรที่จะทำใหม่ๆ ทำอะไรต่อไปก็ทำไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไร ก็คงต้องช่วยกันรับผิดชอบ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"จิราพร" ประกาศกลางสภาจ่อยื่นป.ป.ช.สอบซื้อซิโนแวคแพง

"วิโรจน์" ชี้รัฐบาลทำสัญญาจัดหาวัคซีนล่าช้า - ถามซ้ำทำไมไม่ร่วม Covax

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง