เตือนระวัง "โรคเมลิออยด์" คนมีแผลที่เท้าเลี่ยงลุยน้ำ-ย่ำโคลน

สังคม
2 ก.ย. 64
15:24
10,747
Logo Thai PBS
เตือนระวัง "โรคเมลิออยด์" คนมีแผลที่เท้าเลี่ยงลุยน้ำ-ย่ำโคลน
กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนระวังโรคเมลิออยด์ พบมากในฤดูฝน รอบ 8 เดือนปีนี้ พบป่วยแล้วกว่า 1,426 คน เสียชีวิต 1 คน ส่วนใหญ่กลุ่มผู้สูงอายุและวัยทำงาน โดยเฉพาะเกษตรกร แนะเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน

วันนี้ (2 ก.ย.2564 ) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยเกี่ยวกับโรคที่เกิดในช่วงฤดูฝน ว่า โรคที่กรมควบคุมโรคให้ความสำคัญและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง คือ โรคเมลิออยด์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าโรคไข้ดิน เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุจะอยู่ในดินและในน้ำ

โรคดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง คือ ทางบาดแผลที่ผิวหนัง ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป และสูดหายใจเอาฝุ่นจากดินที่มีเชื้อเจือปนอยู่เข้าไป หลังติดเชื้อประมาณ 1-21 วัน จะมีอาการเจ็บป่วย แต่บางรายอาจนานเป็นปีขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภูมิต้านทานของแต่ละคน

อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ จะมีความหลากหลายคล้ายโรคติดเชื้ออื่น ๆ หลายโรค เช่น มีไข้สูง มีฝีที่ผิวหนัง มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ บางคนพบอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย อาจติดเชื้อเฉพาะที่หรือติดเชื้อแล้วแพร่กระจายทั่วทุกอวัยวะก็ได้ ส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากอาการไข้เป็นหลัก จึงทำให้วินิจฉัยโรคได้ยาก ต้องอาศัยการตรวจเพาะเชื้อทางห้องปฏิบัติการเป็นหลัก เพื่อใช้ประกอบการตรวจวินิจฉัยและรักษา

ปีนี้ป่วยแล้ว 1,426 คน เสียชีวิต 1 คน

นพ.โอภาส กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์ในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 ส.ค.2564 พบผู้ป่วยโรคเมลิออยด์ จำนวน 1,426 คน เสียชีวิต 1 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุและวัยทำงาน พบมากที่สุด คืออายุ 55-64 ปี รองลงมา คือ 45-54 ปี และกลุ่มอายุมากกว่า 65 ปี ตามลำดับ พบในกลุ่มอาชีพเกษตรกรมากที่สุด พื้นที่ที่พบผู้ป่วยมากอันดับ 1 ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ คาดว่าในช่วงฤดูฝนนี้จะมีโอกาสพบผู้ป่วยโรคเมลิออยด์เพิ่มขึ้น

ทั้งนี กรมควบคุมโรคได้มอบหมายกองโรคติดต่อทั่วไป จัดทำคู่มือโรคเมลิออยด์ เป็นแนวทางสำหรับแพทย์ประกอบการตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการในโรงพยาบาลใช้เป็นแนวทางในการตรวจหาเชื้อเมลิออยด์ ซึ่งจะทำให้แพทย์สามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ขณะนี้โรคเมลิออยด์มียาปฏิชีวนะรักษาหายขาด สามารถรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งผู้ป่วยต้องกินให้ครบชุด ใช้เวลาประมาณ 20 สัปดาห์

5 กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ

ด้าน พญ.วรยา เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า โรคเมลิออยด์ ไม่มีวัคซีนป้องกัน สามารถป่วยซ้ำได้อีก ประชาชนที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโรคนี้ มี 5 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกร ซึ่งต้องสัมผัสกับดินและน้ำโดยตรงหรือสัมผัสสัตว์เลี้ยงที่มีเชื้อโรคนี้อยู่ในร่างกาย เช่น แมว สุนัข หมู ม้า วัว ควาย แกะ หรือแพะ, ผู้ที่มีบาดแผลที่เท้า, ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน, ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง และคนสูบบุหรี่จัดหรือติดเหล้า

พญ.วรยา กล่าวต่อไปว่า วิธีการป้องกันโรคดังกล่าวสามารถทำได้ ดังนี้ ผู้ที่มีบาดแผลให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน หรือสัมผัสดินและน้ำโดยตรง หากจำเป็นขอให้สวมรองเท้าบู๊ท ถุงมือยาง กางเกงขายาวหรือชุดลุยน้ำ และรีบทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำสะอาดและสบู่, หากมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบทำความสะอาดด้วยยาฆ่าเชื้อและหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำจนกว่าแผลจะแห้งสนิท, กินอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำต้มสุกทุกครั้ง, หลีกเลี่ยงการสัมผัส ลมฝุ่นและการอยู่ท่ามกลางสายฝน และลดละเลิกการดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ ซึ่งจะทำให้สุขภาพดีขึ้นและมีภูมิต้านทานโรคดีขึ้น

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง