วันนี้ (13 ต.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม 10,064 คน จำแนกเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวัง 9,156 คน ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 781 คน ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 118 คน ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 9 คน ผู้ป่วยสะสม 1,711,565 คน (1 เม.ย.) หายป่วยกลับบ้าน 10,988 คน หายป่วยสะสม 1,587,917 คน (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) ผู้ป่วยกำลังรักษา 107,168 คน เสียชีวิต 82 คน
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรค รายงานการติดเชื้อเข้าข่าย/ ผลตรวจ Antigen test kit (ATK) เป็นบวกเพิ่ม 3,498 คน ยอดสะสม 218,580 คน ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักมีจำนวน 2,941 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 669 คน
อ่านเพิ่ม : กางสถิติโควิด ต.ค. ก่อนนับถอยหลังเปิดประเทศ
สธ.เร่งฉีดวัคซีนคุมโควิด 4 จังหวัดใต้
ด้าน นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มการติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง ยกเว้นพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ที่ยังเพิ่มขึ้น จึงต้องใช้มาตรการต่าง ๆ ลงไปควบคุมโรค โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ได้ประมาณ 1.5 ล้านโดส คิดเป็นร้อยละ 42.4 จากประชากรเป้าหมาย 3.5 ล้านกว่าคน ตั้งเป้าหมายฉีดให้ได้ร้อยละ 70 ภายในเดือน ต.ค.นี้ โดยจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ให้เนื่องจากมีการระบาดของ 3 สายพันธุ์ คือ อัลฟา เบตา และเดลตา
ขณะที่ ภาพรวมทั่วประเทศฉีดวัคซีนแล้ว 61,033,251 โดส เป็นเข็มแรก 35.4 ล้านโดส คิดเป็นร้อยละ 49.2 คาดว่าจะถึงร้อยละ 50 ก่อนกำหนดสิ้นเดือน ต.ค.นี้
นร.ฉีด "ไฟเซอร์" 4.9 แสนโดส
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า นักเรียนฉีดวัคซีนไฟเซอร์แล้ว 499,046 โดส ยังไม่มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง คณะอนุกรรมการวิชาการจะประชุมหาข้อสรุปเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเด็กผู้ชายวันที่ 20 ต.ค.นี้ ก่อนที่จะเริ่มมีการฉีดเข็ม 2 ตามกำหนดในวันที่ 25 ต.ค. ทั้งนี้ ขอให้นักเรียนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมในโซเชียลมีเดียที่สร้างความวิตกกังวล ให้ติดตามข้อมูลจากหน่วยงานทางการหรือมีนักวิชาการตรวจสอบยืนยัน
ส่วนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปีตามประกาศของนายกรัฐมนตรี จะมีมาตรการต่าง ๆ รองรับ ทั้งการกำหนดประเทศที่เดินทางเข้ามาต้องอยู่ในกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ มีหลักฐานการฉีดวัคซีนและพื้นที่ท่องเที่ยวมีความครอบคลุมวัคซีนสูง ซึ่งพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัดมีการฉีดวัคซีนเข็ม 1 ร้อยละ 70 เฉพาะพื้นที่ กทม.ฉีดได้ร้อยละ 102.8 ภูเก็ต ร้อยละ 80 ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ที่มีความครอบคลุมน้อยมีการเตรียมความพร้อมจัดสรรวัคซีนฉีดแล้ว
ศบค.พิจารณาสูตรไขว้เพิ่มเติม 14 ต.ค.นี้
นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า วัคซีนในปี 2564 หากรวมวัคซีนทางเลือกจะมี 179.1 ล้านโดส ยืนยันว่าเพียงพอแน่นอน ส่วนวัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวคตามด้วยแอสตราเซนเนกา กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงและรวดเร็ว ยังไม่จำเป็นต้องฉีดกระตุ้น แต่เวลาผ่านไป 3-6 เดือนอาจจะลดลง จะมีการพิจารณาฉีดกระตุ้น สำหรับวัคซีนสูตรแอสตราเซนเนกาตามด้วยไฟเซอร์ เป็นสูตรที่ใช้ได้ในกรณีจำเป็น และจะมีการเสนอ ศบค.พิจารณาสูตรไขว้เพิ่มเติม ในวันที่ 14 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ สูตรวัคซีนทุกสูตรที่ประกาศใช้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการวิชาการแล้วว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพส่วนการจะฉีดวัคซีนสูตรใดขึ้นกับการบริหารจัดการวัคซีนที่มีในช่วงเวลานั้น แต่ไม่ว่าฉีดสูตรใดยังต้องป้องกันตนเองขั้นสูงสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.ไฟเขียวขอรับวัคซีนแอสตราฯ 4.7 แสนโดสจากเกาหลีใต้
นายกฯ ประกาศเปิดท่องเที่ยว 1 พ.ย.นี้ 10 ประเทศเข้าไทยไม่ต้องกักตัว
กรมควบคุมโรคยืนยันไม่มีสารปนเปื้อนในวัคซีนไฟเซอร์