"ศักดิ์สยาม" ลาประชุม ครม. ส่งเอกสารค้านยืดสัมปทาน "สายสีเขียว"

การเมือง
8 ก.พ. 65
12:14
437
Logo Thai PBS
"ศักดิ์สยาม" ลาประชุม ครม. ส่งเอกสารค้านยืดสัมปทาน "สายสีเขียว"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“ศักดิ์สยาม” ชี้แจงลาประชุม ครม. เพราะแจงติดภารกิจสำคัญ ยืนยันค้านขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนความเห็นเพิ่มเติม กทม. ค่าโดยสาร-ตั๋วร่วม-กฎหมาย ไม่ต่างจากเดิม

วันนี้ (8 ก.พ.2565) แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ยื่นหนังสือถึงเลขาธิการ ครม. ลงวันที่ 7 ก.พ.2565 ขอลาการประชุม ครม. ระบุว่า เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ

นอกจากนี้ ยังแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วย กรณีกระทรวงมหาดไทย เสนอวาระเพื่อพิจารณา ขอความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ออกไปอีก 30 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปเป็นปี 2602 โดยมองว่า กระทรวงมหาดไทยไม่ดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย และหลักธรรมาภิบาล

 

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ยังได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงเลขาธิการ ครม. เรื่อง ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว อ้างถึง หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0506/1360 ลงวันที่ 17 ม.ค. 2565 ระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า

ตามที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว กรุงเทพมหานครได้จัดส่งข้อมูลและชี้แจงการดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงคมนาคม เพื่อประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม หากกระทรวงคมนาคมมีความเห็นเพิ่มเติมประการใด ขอให้แจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วน ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้พิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมของ กทม. แล้ว ขอยืนยันตามความเห็นเดิมว่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กทม. เนื่องจากข้อมูลที่ กทม. จัดทำเพิ่มเติมนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริงที่ทำให้การวิเคราะห์ของกระทรวงคมนาคมแตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในประเด็นของการคำนวณอัตราค่าโดยสาร การรองรับระบบตั๋วร่วม และความชัดเจนของประเด็นข้อกฎหมาย

นอกจากนี้ ปัจจุบันการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังคงเป็นหน่วยงานเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสิ่งก่อสร้างและที่ดิน ตลอดแนวโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 ช่วง อันเป็นสาระสำคัญที่ไม่อาจเห็นด้วย ต่อแนวทางการดำเนินการตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย นอกเหนือจากประเด็นอื่นๆ ที่กระทรวงคมนาคมได้เคยนำเสนอและแจ้งยืนยันในครั้งนี้

 

อีกทั้ง กระทรวงคมนาคมขอให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม กรณีที่ กทม. รายงานว่า การโอนกรรมสิทธิ์ยังไม่สมบูรณ์เนื่องจาก รฟม. ยังไม่สรุปรายละเอียดด้านการเงินช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ทำให้ไม่สามารถรับโอนโครงการได้นั้น ขอรายงานข้อเท็จจริงว่า กทม. รฟม. สำนักงบประมาณ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมเพื่อหารือสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายโครงการ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-ดูคต ร่วมกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2563

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาตให้เข้าพื้นที่กรณีการติดตั้งสะพานเหล็กแยกหทัยราษฎร์ และแยกพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งรอคำยืนยันจาก กทม.

เนื่องจากการพิจารณากรอบวงเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะได้ข้อสรุปมีความจำเป็นต้องทราบความชัดเจนของแนวทางการติดตั้งสะพานเหล็กทั้ง 2 แห่ง เพื่อประกอบการจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโครงการ

ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2563 และวันที่ 2 พ.ย. 2564 โดยขอทราบผลการพิจารณาของ กทม. และปัจจุบัน กทม. ยังไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาให้กระทรวงคมนาคมทราบ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง องค์กรผู้บริโภคค้านต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว-ค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง