“หนูเปล่านะเขามาเอง” อนุทินพร้อมรับ “เอกราช” มือขวา “ธรรมนัส” เข้าพรรค

การเมือง
15 ก.พ. 65
09:29
500
Logo Thai PBS
“หนูเปล่านะเขามาเอง” อนุทินพร้อมรับ “เอกราช” มือขวา “ธรรมนัส” เข้าพรรค
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"อนุทิน" ยืนยัน รัฐบาลไม่ขัดแย้งความเห็นต่าง เรื่องสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่นำไปสู่จุดแตกหักของรัฐบาล ระบุ ส.ส.ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพิ่มไม่เกี่ยวกับการต่อรองโควต้ารัฐมนตรี และภูมิใจไทยก็ไม่ได้ดูด ส.ส. ระบุ “หนูเปล่านะเขามาเอง”

วันนี้ (15 ก.พ.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุถึงกรณีที่นายเอกราช ช่างเหลา ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมต้อนรับอยู่แล้ว และไม่ทราบว่านายเอกราช มีความเกี่ยวพันหรือถูกตรวจสอบในเรื่องใดมาก่อนหน้านี้ เพราะจากการตรวจสอบใบสมัครก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และหากมีคดีติดตัวจริงก็ไม่สามารถเป็น ส.ส. ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ส่วนที่มองว่านายเอกราช มีความสนิทสนมเป็นมือขวาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะมีความเชื่อมโยงประเด็นการเมืองอื่นใดหรือไม่นั้น นายอนุทินระบุว่า ทุกคนเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น อาจจะพรรคเดียวกันคนละพวก หรือคนละพรรคพวกเดียวกัน

นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่ได้ดูดส.ส.เข้ามาสังกัดในพรรค เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ โดยกล่าวแบบติดตลกว่า “หนูเปล่านะเขามาเอง” ทั้งนี้จะมีใครเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทยอีกหรือไม่ก็แล้วแต่ ซึ่งเมื่อมาถึงชานเรือนก็ต้องต้อนรับ แต่มีสัญญาร่วมกันว่าต้องทำความดี ถ้าใครผิดสัญญาก็ไม่เอาไปด้วย

การที่มีส.ส.ย้ายเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับการได้โควตารัฐมนตรีเพิ่มมากขึ้นไปด้วย เป็นคนละเรื่องกัน แต่จะเป็นการพิสูจน์ว่า การมี ส.ส.ในพรรคเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่การกดดันนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันว่าจะอยู่กันอย่างนี้จนจบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้เป็นช่วง 12 เดือนสุดท้ายแล้ว

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยังไม่มีสัญญาณการปรับครม. แต่ก็เป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรีในการปรับครม.

ขณะนี้มีว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง แต่ไม่ใช่โควตาของพรรคภูมิใจไทย และไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหน ไปทวงเพิ่มโควตารัฐมนตรี แต่ช่วยกันทำงาน ซึ่งขณะนี้ปัญหาต่างๆก็ค่อยๆคลี่คลาย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโควิด-19 อาจจะมีปัญหาเรื่องของราคาน้ำมัน ซึ่งต้องช่วยกันแก้ไข

นายอนุทินกล่าวด้วยว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีความขัดแย้ง แต่เรื่องการทำงานอาจจะมีความเห็นต่างในระหว่างหน่วยงาน ไม่ใช่ความเห็นต่างในระดับนโยบาย ยืนยันว่าต่ออายุสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่ใช่ประเด็นที่จะนำไปสู่การแตกหักของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะห่างไกลจากจุดนั้นมาก เป็นเพียงเรื่องความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ต้องให้เกียรติกันและให้แต่ละฝ่ายใช้ดุลพินิจของตนเองก็เท่านั้น สุดท้ายขึ้นอยู่กับมติ ครม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง