เร่งแก้วิกฤตน้ำประปา จ.หนองบัวลำภู หลังเหลือน้ำใช้ได้อีกเพียง 10 วัน
วันนี้ (12 ก.ค.2558) ถนนเลียบคลอง13 หมู่ 4 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เกิดการทรุดตัวอีก เป็นระยะทางกว่า 100 เมตรลึก 1 เมตร หลังได้รับผลกระทบจากน้ำในคลองลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับสถานีผลิตน้ำประปาสาขาธัญบุรี คลอง 13 ที่ล่าสุด เครื่องสูบน้ำได้หยุดทำการสูบน้ำจากคลอง 13 แล้ว หลังไม่มีน้ำดิบจะสูบขึ้นได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน อยู่ระหว่างวางแผนเพื่อหาน้ำดิบ เพื่อไม่ให้ประชาชนนพื้นที่ตั้งแต่คลอง 5 - คลอง 14 เขตอ.ธัญบุรี อ.หนองเสือ และอ.ลำลูกกา กว่า 50,000 ครัวเรือนพอมีน้ำปะปาใช้ในช่วงนี้
ส่วนที่จ.อ่างทอง ซึ่งประสบปัญหาน้ำชลประทานและแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอดจนหมด ล่าสุดนายปวิณ ชำนิประศาสตร์ ผู้ว่าราชการ จ.อ่างทอง ก็เตรียมเชิญเจ้าของบ่อทรายมาหารือ เพื่อให้ทางราชการสูบน้ำมาช่วยชาวนา เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำสุดท้ายที่เหลือน้ำอยู่ในขณะนี้
ขณะที่จ.ราชบุรีผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก ต้องช่วยกันกลับหัวเรือ หลังคลองดำเนินสะดวกตื้นเขินจนเรือวิ่งไม่ได้ เช่นเดียวกับคลองบางสาย ที่จะเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวจุดต่างๆ มีสภาพตื้นเขิน เรือบางลำกระแทกกับโขดหินเสียหาย สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง เรือก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ สร้างความผิดหวังให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ตรงข้ามกับชาวนาปีในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ที่ยังยิ้มได้แม้จะประสบปัญหาภัยแล้ง ส่วนหนึ่งมาจากที่โครงการบริหารการจัดการน้ำได้ดี ประกอบกับฝนที่ตกทำให้น้ำไหลลงเขื่อนแก่งกระจานวันละ 3 - 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำนาได้จนสิ้นสุดฤดูนาปี
ส่วนภาคตะวันออกเฉียงหนือแม้จะมีฝนตกลงมาบ้างในบางจังหวัด แต่ก็มีอีกหลายพื้นที่ยังคงเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำ เช่นการประปาส่วนภูมิภาคหนองบัวลำภู ที่ต้องนำน้ำจากสระหนองบัว มาผลิตน้ำประปา หลังอ่างเก็บน้ำห้วยเหล่ายาง แหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปา ในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภูแห้งขอด และมีน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาได้อีกเพียง 10 วัน เช่นเดียวกับน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มากแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปา ไปยังตัวเมืองบุรีรัมย์ และอำเภอห้วยราช มีปริมาณเก็บกักเพียง 7,000,000 ลูกบาศก์เมตร เจ้าหน้าที่เตรียมผันน้ำจากลำมาศ และลำปะเทีย ไว้สำรองหากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน
ขณะที่ภาคเหนือที่จ.พิจิตร เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ ในต.สายคำโห้ อ.เมืองพิจิตร ต้องต้อนฝูงแพะ ออกจากหมู่บ้าน ไปเลี้ยงนอกพื้นที่ หลังภัยแล้งที่ขยายวงกว้าง ทำให้อาหารลดน้อยลงไม่พอกิน ขณะที่ศูนย์ฝนหลวงพิเศษจังหวัดนครสวรรค์ ยังคงนำเครื่องบิน 3 ลำ ขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนหลวง เหนือพื้นที่จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี เพื่อทำให้ฝนตกในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมทั้งพื้นที่การเกษตรในจ.ชัยนาท จ.ลพบุรี จ.สระบุรี และจ.สิงห์บุรี