นายกฯ ยืนยันไทยมุ่งแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลหารือกับนายโจโค วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย หลังไปร่วมประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกา ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำต่างประเทศ โดยถือเป็นวาระแห่งชาติ รวมทั้งการแก้ปัญหาภาคประมงไทยในลักษณะองค์รวม ทั้งประเด็นแรงงานผิดกฎหมาย การต่อต้านการทำประมงแบบ IUU และการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เพื่อประโยชน์ร่วมกันและของภูมิภาค
ขณะที่ในวันนี้ (23 เม.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแถลงข่าวการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างเป็นระบบ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงให้สหภาพยุโรป หรือ EU ได้เห็นถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง
ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเสนอ คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว หรือออกพระราชกำหนดแก้ปัญหาประมง เพื่อให้สอดคล้องกับหลักปฎิบัติ IUU มั่นใจปลดล็อกทันใน 6 เดือน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความจำเป็นที่จะใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาประมง ว่านายกรัฐมนตรีสามารถออกคำสั่งได้เลยไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 โดยจะปรึกษานายกรัฐมนตรีในการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจไปชี้แจงในเรื่องของการประมงของไทยว่าได้ดำเนินการอย่างไร แก้ไขอย่างไรตั้งแต่เป็นรัฐบาล
ขณะที่ภาคเอกชนมั่นใจว่า ยังไม่กระทบยอดจำหน่ายแต่สิ่งที่กังวลคือประเทศอื่นอาจปรับมาตรฐานสินค้าประมงให้เข้มงวดเพิ่มขึ้น ตามสหภาพยุโรป ทั้งนี้สหภาพยุโรป ต้องการให้ไทยแก้ไขปัญหาประมงใน 3 ประเด็น ทั้งการเร่งรัดแก้ไขกฎหมายประมง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุง พ.ร.บ.ประมง และรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา เร่งจัดทำแผนแก้ปัญหาประมงระดับชาติ รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์ตำแหน่งเรือ โดยทั้งหมดมีความคืบหน้าร้อยละ 50