ธปท.แจงภาคอสังหาฯปรับตัวดีขึ้น เงินฝากรวมกลับมาเร่งขึ้นหลังชะลอตัว 5เดือน ด้านระบบธนาคารยังแข็งแกร่งดี

เศรษฐกิจ
2 ส.ค. 55
01:35
10
Logo Thai PBS
ธปท.แจงภาคอสังหาฯปรับตัวดีขึ้น เงินฝากรวมกลับมาเร่งขึ้นหลังชะลอตัว 5เดือน ด้านระบบธนาคารยังแข็งแกร่งดี

 นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเดือนมิถุนายน ยังคงพื้นตัวต่อเนื่องโดยที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนส่วนที่อยู่อาศัยในแนวราบยังคงพื้นตัวไม่เต็มที่ทั้งนี้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมเล็กน้อย เห็นได้จากจำนวนที่อยู่อาศัยใหม่ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารในเขตกรุงเทพฯและปริมลฑล (ที่ปรับฤดูกาล) โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2.5% เป็นการเพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัยทุกประเถท 

 
ด้านอุปทานปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน23.6% จากจำนวนที่อยู่อาศัยที่เปิดขายใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมลฑล(ที่ปรับฤดูกาล) โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของอาคารชุดเป็นสำคัญส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบยังมีอุปทานในระดับต่ำ แม้จะเพิ่มขึ้นในเดือนนี้อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์สอดคล้องกับการปรับตัวของราคาโดยดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์และอาคารชุดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนขณะที่ราคาบ้านเดี่ยวยังทรงตัว
 
นายเมธี กล่าวอีกว่า ในไตรมาสที่ 2 ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์อุปสงค์และอุปทานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน โดยจำนวนที่อยู่อาศัยใหม่ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารในเขตกรุงเทพฯและปริมลฑล (ที่ปรับฤดูกาล) โดยเพิ่มขึ้น 14.4% จากไตรมาสก่อนและจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ปรับเพิ่มขึ้น 21.6 จากไตรมาสก่อนเช่นกัน 
 
นายเมธี กล่าวด้วยว่าผลจากการเร่งระดมเงินฝากของธนาคารพานิชย์เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่ในระดับสูงรวมถึงตั๋วแลกเงินที่ยังชะลอตัวลงต่อเนื่องจากมาตราการการเก็บค่าธรรมเนียมการออกตั๋วแลกเงินในอัตราที่เท่ากับเงินฝาก0.46% เพื่อนำไปชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯประกอบกับความต้องการลงทุนที่ลดลงจากกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการกำกับหลักทัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ที่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำในตั๋วแลกเงินของสถาบันการเงินไว้ที่ 10 ล้านบาทวึ่งมีผลใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมแล้ว ส่งผลให้เงินฝากรวมของสถาบันรับฝากเงินรวมตั๋วแลกเงิน กลับมาเร่งขึ้น 11.4% หลังจากชะลอตัวลงต่อเนื่องในช่วง 5 เดือนแรกของปี 
 
ส่วนสินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงินนายเมธี กล่าวว่า เดือนมิถุนายน ชะลอตัวลงจาดเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยจาก 16.8% มาอยู่ที่ 16.1% ซึ่งโดยรวมยังขยายตัวได้ดีสินเชื่อภาคธุรกิจเร่งขึ้นทุกเกือบประเภทธุรกิจทั้งสินเชื่อเพื่อการลงทุนและสินเชื่อเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนตามวัฏจักรการลงทุนที่อยุ่ในช่วงขาขึ้นสินเชื่อภาคครัวเรือนขยายตัวจากสินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อรถยนต์เป็นสำคัญ ตามความต้องการซื้อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นหลังปัญหาน้ำท่วมรวมทั้งเป็นผลจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลด้วย 
 
ทั้งนี้ นายเมธี กล่าวว่า สัดส่วนของสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินเดือนมิถุนายนลดลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 92.4% จาก 92.7% และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของระบบธนาคารพานิชย์เดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 15.05ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดสะท้อนฐานะการเงินของระบบธนาคารที่ยังแข็งแกร่ง 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง