สนพ.เตรียมประชุม กบง.แก้ปัญหาราคาน้ำมัน วันนี้ (17 ส.ค.)

เศรษฐกิจ
17 ส.ค. 55
02:43
8
Logo Thai PBS
สนพ.เตรียมประชุม กบง.แก้ปัญหาราคาน้ำมัน วันนี้ (17 ส.ค.)

ผลสำรวจพบว่าการประกาศปรับราคาก๊าซแอลพีจีภาคขนส่งกระทบต่อต้นทุนขนส่ง และราคาสินค้า ขณะที่ สนพ.เตรียมเปิดประชุม กบง.ในวันนี้(17 ส.ค.) หลังค่าการตลาดลดต่ำเหลือ 1 บาทต่อลิตร ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ผู้ค้าน้ำมันเริ่มปรับราคาน้ำมันสูงขึ้น

นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือสนพ.เปิดเผยว่า สนพ.เตรียมเสนอให้กระทรวงพลังงานเปิดการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง.อย่างเร่งด่วนในวันนี้ (17 ส.ค.) หลังจากพบว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นอีก ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันโดยเฉพาะในกลุ่มเบนซินลดต่ำเหลือ 1 บาทต่อลิตร จากที่ควรได้ 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหน้าปั๊มปรับขึ้นอีก

ทั้งนี้ สนพ.จะเสนอให้ที่ประชุม กบง.พิจารณาปรับลดการจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันลง โดยเฉพาะในกลุ่มน้ำมันเบนซิน ยังสามารถปรับลดลงได้อีกเพราะปัจจุบันมีการเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ ในส่วนของน้ำมันเบนซิน 95 จัดเก็บที่ 6.50 บาทต่อลิตร, เบนซิน 91 จัดเก็บที่ 5.20 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 จัดเก็บ 1.30 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 ชดเชย 1 บาทต่อลิตร, น้ำมัน E 20 ชดเชย 1.30 บาทต่อลิตร, น้ำมัน E 85 ชดเชย 12.70 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลไม่มีการจัดเก็บเงิน

ด้านนายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นของนักธุรกิจเกี่ยวกับทัศนคติและผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ภาคขนส่ง จากการสอบถามว่าเห็นด้วยกับการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ภาคขนส่งหรือไม่ กลุ่มตัวอย่างภาคขนส่งร้อยละ 15.4 เห็นด้วยกับการปรับขึ้นราคา ร้อยละ 84.6 ไม่เห็นด้วย สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่ไม่อยู่ในภาคขนส่งร้อยละ 19.2 เห็นด้วย ร้อยละ 80.8 ไม่เห็นด้วย

และเมื่อสอบถามถึงสาเหตุสำคัญที่สุดไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นราคาในครั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 52.2 ระบุว่ากระทบต่อต้นทุนการทำธุรกิจโดยรวม ร้อยละ 33.9 ไม่สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นตามต้นทุนได้ทั้งหมด ร้อยละ 10.6 ปรับขึ้นราคาเร็วเกินไป จึงไม่สามารถปรับตัวได้ทัน และอีกร้อยละ 3.3 เป็นสาเหตุอื่น เช่น กระทบกับค่าครองชีพ ไม่ต้องการรับภาระในความผิดพลาดของการบริหารจัดการของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ถึงผลกระทบที่มีต่อต้นทุนในการทำธุรกิจทั้งต้นทุนทางตรง และทางอ้อมของกลุ่มตัวอย่าง พบว่าผลกระทบเฉลี่ยในภาคขนส่งจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1.84 และสำหรับกลุ่มที่ไม่อยู่ในภาคขนส่ง ต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1.17

นายเกียรติอนันต์ กล่าวอีกว่า การปรับขึ้นราคาแอลพีจี อีก 25 สตางค์ต่อกิโลกรัม หรือประมาณร้อยละ 1.2 มีผลต่อผู้ประกอบการทั้งทางตรงจากค่าใช้จ่ายในการซื้อก๊าซ และทางอ้อมจากการผลักภาระต้นทุนของธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนอกจากจะกระทบต่อผลประกอบการแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพอีกด้วย โดยผู้ที่จะเดือดร้อนมากที่สุด คือผู้ที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ ต้นทุนทางธุรกิจที่สูงขึ้นยังหมายถึงความสามารถในการแข่งขันที่น้อยลงของธุรกิจไทย


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง