กองทัพเรือส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศรช่วยน้ำท่วมภาคใต้ 
ร้านค้าริมทะเลเกือบทุกร้านในตำบลปากพนังตะวันออก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องปิดให้บริการเพราะไม่มั่นใจในคลื่นและลมพัดแรงปกติแล้วช่วงนี้จะเป็นช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวในยามค่ำคืนจำนวนมากแต่คืนนี้กลับเงียบเหงา ขณะที่ชาวบ้านหลายคนเริ่มไม่มั่นใจในความปลอดภัย จึงอพยพไปอาศัยบ้านญาติ หรือ ต่างอำเภอ ขณะที่น้ำทะเลเริ่มหนุนสูงและไหลเข้าท่วม
ส่วนแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง ชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัว ได้รับความเสียหายจากคลื่นสูง และน้ำทะเลไหลท่วมบ้านริมชายหาด นอกจากนี้ถนนเชื่อมหมู่ที่ 1 และ 2 ก็ถูกน้ำเซาะเสียหาย
ชาวบ้าน บอกว่า สภาพอากาศเช่นนี้ ทำให้พวกเขาเริ่มหวาดกลัว อาจจะเกิดเหตุการณ์เหมือนเหตุวาตภัย เมื่อปี 2505 ที่เกิดพายุพัดหายไปทั้งหมู่บ้าน และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 3,000 คน ส่วนที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ปริมาณน้ำคลองอู่ตะเภา เขตเทศบาลนคร เมื่อช่วงค่ำยังต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 6 เมตร แม้มีฝนตกตลอดทั้งวัน
นายดนัยวิทย์ สายบัณฑิต ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ระดับน้ำคลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำที่ 1 ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนที่จังหวัดกระบี่ บ้านหลังหนึ่ง บนถนนศรีพังงา ตำบลกระบี่ใหญ่ อำเภอเมือง ถูกน้ำกัดเซาะบ้านทรุดลงไปในคลอง เช่นเดียวกับถนนในเขตเทศบาล ปริมาณน้ำป่าจากเทือกเขาพนมเบญจา เอ่อล้นท่วมบ้านและทรัพย์สินเสียหาย เพราะชาวบ้านบางส่วนเคลื่อนย้ายไม่ทัน
ขณะที่กองทัพเรือส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศร พร้อมเฮลิคอปเตอร์ชนิดเบลล์ 2 ลำ ซีฮอว์ค 3 ลำ และเรือท้องแบบความเร็วสูง 2 ลำ พร้อมทั้งกำลังพลและเสบียงเพื่อไปช่วยนักท่องเที่ยวที่ติดค้างตามเกาะต่างๆ โดยเฉพาะที่เกาะเต่าจังหวัดชุมพร ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวติดค้างประมาณ 2,000 คน นอกจากนี้จะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ