กรมอุตุฯ ออกเตือน 5 จังหวัดภาคใต้ รับมือฝนตกหนัก-คลื่นทะเลสูง

สังคม
25 ต.ค. 55
04:47
29
Logo Thai PBS
กรมอุตุฯ ออกเตือน 5 จังหวัดภาคใต้ รับมือฝนตกหนัก-คลื่นทะเลสูง

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 12 เตือน 5 จังหวัดภาคใต้ รับมืออันตรายที่อาจเกิดจากภาวะฝนตกหนัก และทะเลมีคลื่นสูงจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำ ที่พาดผ่านทะเลฝั่งอ่าวไทย

สภาวะดังกล่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลองต่าง ๆ ของจ.นครศรีธรรมราชเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนนักท่องเที่ยวจำนวนมากในจ.พังงา พากันทยอยเดินทางกลับขึ้นฝั่ง เพราะกลัวว่าจะตกค้างในเกาะต่าง ๆ หลังมีคลื่นลมแรงและฝนที่ตกหนักในช่วงนี้

คลื่นลมที่มีกำลังแรงขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก ทยอยเดินทางกลับขึ้นฝั่ง ที่ท่าเทียบเรือบ้านท่าด่าน ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา ในขณะที่เรือท่องเที่ยวและเรือประมงในพื้นที่ของจ.พังงา หลายลำต้องจอดเทียบท่า หลังกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนชาวเรือให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เพราะในช่วงสับดาห์นี้ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตอนกลาง จะทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง

เช่นเดียวกับที่จ.นครศรีธรรมราช ฝนที่ตกลงมาสะสม ทำให้การระบายน้ำของทางเทศบาลเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะมีโครงการของภาครัฐ ที่กีดขวางทางระบายน้ำ ในคลองสายหลัก 5 สาย ที่ไหลผ่านตัวเมืองนครศรีธรรมราช ทำให้หลายคนกังวลว่า หากเข้าสู่ฤดูฝนอาจจะเกิดน้ำท่วมได้ เพราะขณะนี้ ทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังไม่ได้มีแผนรองรับที่ดีพอ

ส่วนที่จ.สงขลา คณะทำงานชุดวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์น้ำ ประชุมเพื่อประเมินปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และลำคลองในพื้นที่ต่าง ๆ หลังฝนตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำในลำคลองสายต่าง ๆ มีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยจังหวัดสั่งการให้ผู้นำชุมชน และผู้นำท้องถิ่น ร่วมเฝ้าระวังเพื่อแจ้งเตือนอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลับ และดินโคลนถล่ม ใน 10 อำเภอ 217 หมู่บ้าน

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ ฉบับที่ 12 เตือน "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้" จากอิทธิหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนกลางที่เคลื่อนไปปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนแล้ว ส่งผลมีฝนตกหนักใน 5 จังหวัด ได้แก่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี ระนอง และพังงา โดยคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้

ส่วนความเคลื่อนไหวของพายุโซนร้อน "เซินตินห์" (SON-TINH) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนตัวลงทะเลจีนใต้ตอนกลางในระยะต่อไป และขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง