พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงตั้งข้อสังเกตจากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นว่า มียุทธศาสตร์กำจัดผู้นำฝ่ายค้าน ด้วยการทำลายชื่อเสียง,เร่งรีบสั่งถอดยศและยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระ เพื่อยุติการตรวจสอบและตอบโต้จากกรณีไม่ยอมรับกฎหมายนิรโทษกรรม พร้อมกันนั้นยังมีกลยุทธ์สกัดกั้นการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ด้วยการปล่อยข่าวเรื่องมือที่สามและการกล่าวอ้างถึงเหตุความไม่ปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น
ขณะที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกของพรรค เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 พฤศจิกายน จะมีการประชุม ส.ส. เพื่อซักซ้อมและเตรียมพร้อมด้านข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีขึ้น พร้อมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมและชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังได้กล่าวแสดงความกังวลเรื่องของการชุมนุมขับไล่รัฐบาล เนื่องจากพบว่ามีกลุ่มการเมืองและสมาชิกบางพรรคใช้เครือข่ายหัวคะแนนชักชวนคนมาร่วมชุมนุม
ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า ได้สั่งการตั้งคณะทำงานด้านการข่าว เพื่อรับรายงานการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองในแต่ละจังหวัดจากผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และมีพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่ปรึกษา และแม้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบดูแลการชุมนุมทางการเมือง แต่กระทรวงมหาดไทยก็จำเป็นต้องดูแลการเคลื่อนไหวในแต่ละพื้นที่เช่นกัน
และในวันพรุ่งนี้ (19พ.ย.55) ร.ต.อ.เฉลิม ได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อพิจารณาข้อมูลข่าวต่อกรณีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลขององค์การพิทักษ์สยาม โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเข้าร่วมประชุมและเสนอแผนรักษาความปลอดภัย รวมถึงการชี้แจงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเตรียมเสนอให้พิจารณาประกาศใช้กฎหมายพิเศษ หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อควบคุมดูแลการชุมนุมที่จะมีขึ้น