ม.มหิดลเผยเด็กไทยอดอาหารเช้ามากขึ้น

29 พ.ค. 54
14:08
53
Logo Thai PBS
ม.มหิดลเผยเด็กไทยอดอาหารเช้ามากขึ้น

อาหารเช้าเป็นอาหารมื้อที่แพทย์แนะนำว่า มีความสำคัญสำหรับคนทุกเพศและทุกวัย แต่งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดลกลับพบว่า ขณะนี้เด็กอายุ 6-11 ปี ไม่รับประทานอาหารเช้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะกลัวอ้วนและไม่มีเวลา ทั้งที่การไม่รับประทานอาหารเช้าจะส่งผลต่อสมองและร่างกาย

ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารประจำที่ ด.ญ.ทักษพร ทิพย์สิงห์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประชานิเวศน์ จะรับประทานเป็นอาหารมื้อเช้าก่อนเข้าเรียนทุกเช้า แต่ ด.ญ.ธัญพัตรา ทองนิ่ม เพื่อนนักเรียนชั้นเดียวกัน กลับรับประทานอาหารเช้าเพียงบางวัน เพราะผู้ปกครองไม่ค่อยมีเวลา แต่เธอบอกว่าถ้าวันไหนไม่ได้รับประทานอาหารเช้าจะทำให้รู้สึกไม่ปกติ

การสำรวจของสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดลพบว่า ปี 2549 เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - 6 ในกรุงเทพมหานคร ไม่รับประทานอาหารเช้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48 ขณะที่เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่3 - 4 ร้อยละ 30 เข้าใจว่าอาหารเช้าทำให้อ้วน สาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กไม่รับประทานอาหารเช้า คือ ไม่หิวและไม่มีเวลา เพราะตื่นสาย และไม่มีใครทำอาหารเช้าให้ แพทย์บอกว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้น คือ เด็กจะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง และไม่สามารถเรียนหนังสือได้อย่างเต็มที่

แพทย์ยืนยันด้วยว่าอาหารมื้อเช้า สำคัญสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย เพราะเป็นอาหารมื้อแรกหลังจากร่างกายพักผ่อนเป็นเวลานานในเวลากลางคืน อาหารเช้าที่เหมาะสมจึงควรเป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต อย่างข้าวหรือขนมปัง หรือเป็นอาหารที่ให้พลังงาน เช่น โปรตีน รวมทั้งผัก ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายพร้อมที่จะเริ่มต้นวันใหม่ ดังนั้นถ้าผู้ใหญ่ไม่รับประทานอาหารเช้า ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างจากเด็ก

คนที่ไม่รับประทานอาหารเช้ายังอาจเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ง่ายกว่าคนที่รับประทานอาหารเช้าปริมาณมาก เพราะจะทำให้รับประทานอาหารมื้อกลางวันและมื้อเย็นมากขึ้น ทั้งที่อาหารมื้อเย็นเป็นมื้อที่ทุกคนควรบริโภคในปริมาณที่น้อยที่สุด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง