ตร.เร่งติดตามเด็ก 3 เดือนถูกลักพาตัวจาก ร.พ.ราชวิถี
โรงพยาบาลราชวิถีเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดของตึกผู้ป่วยนอก ซึ่งแสดงให้เห็นรูปพรรณคนร้าย เป็นหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปี ผมยาว สูงประมาณ 150 เซนติเมตร ผิวดำแดง ขณะอุ้มเด็กวัย 3 เดือน เดินออกจากตึกผู้ป่วยนอก ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายออกทางด้านหลังโรงพยาบาลเพื่อหลบหนีไปขึ้นรถที่ป้ายรถประจำทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ทั้งนี้ จากภาพที่บันทึกได้โดยกล้องวงจรปิดนี้ตำรวจ ประเมินว่าคนร้ายน่าจะมีความชำนาญในพื้นที่ เนื่องจากภายในตึกของโรงพยาบาลราชวิถีมีทางเดินสลับซับซ้อน และเชื่อว่าน่าจะลงมือเพียงลำพังเพราะไม่พบว่ามีผู้ติดตามหรือคนดูลาดเลาให้แต่อย่างใด
หลังจากนี้ ตำรวจจะทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดของโรงพยาบาลอีกครั้ง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แต่น่าจะขโมยเด็กเพื่อนำไปเลี้ยงเองหรือนำไปให้คนที่ไม่สามารถมีบุตรได้
ด้านนางวันวิสาข์ แสนพันธ์ เมื่อรู้ว่าลูกชายวัย 3 เดือนถูกขโมยออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ทำให้เธอโผเข้ากอดแม่สามีพร้อมร้องขอให้ตำรวจเร่งติดตามลูกชายเธอคืนมาโดยเร็ว
นางวันวิสาข์ กล่าวว่า หญิงคนดังกล่าวติดตามเธอมาตั้งแต่บริเวณหน้าร้านค้าสวัสดิการ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเด็กอ่อนซึ่งต้องการเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยการให้ค่านมกับเด็กอ่อน แต่เมื่อนางวันวิสาข์แจ้งว่า ต้องการพาลูกชายที่ป่วยด้วยโรคตาอักเสบมาพบแพทย์ หญิงคนดังกล่าวยังติดตามเธอมาจนถึงบริเวณช่องรอรับบริการ และแสดงท่าทีเป็นมิตรจนเธอเชื่อใจ ยอมมอบลูกชายให้หญิงคนร้ายอุ้ม ต่อมาเธอขอลูกคืนเพื่อไปพบแพทย์แต่หญิงคนนี้ยังแสดงความมีน้ำใจด้วยการจะอุ้มไปส่งให้ถึงห้องตรวจ แต่เมื่อเธอขอเข้าห้องน้ำเพื่อล้างมือ และขอให้หญิงคนนี้รออยู่ด้านหน้าแต่เมื่อออกมากลับพบว่า ลูกเธอถูกอุ้มหายไปแล้ว
นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และเชื่อว่าจะได้ตัวเด็กชายวัย 3 เดือนคืน เนื่องจากกล้องวงจรปิดเห็นภาพคนร้ายชัดเจน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะว่าที่ผ่านมาโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ มีระบบรักษาความปลอดภัยเด็กอ่อนหลังคลอดเป็นอย่างดี และมีการให้เจ้าหน้าที่กำชับไปยังแม่ของเด็กให้มีความระมัดระวังตลอดเวลา แต่ในจุดเกิดเหตุเกิดขึ้นที่ทางเชื่อมต่อของอาคารจึงเป็นเรื่องยากที่จะดูแลควบคุม
สำหรับมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ (31 พ.ค.) จะได้กำชับไปยังสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ มหาราชินี ให้ประกาศเตือนผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมารับการรักษา ให้ดูแลเด็กอยางใกล้ชิด และหากต้องเข้าห้องน้ำเหมือนในกรณีนี้ จะให้ฝากเด็กไว้ที่เคาน์เตอร์พยาบาล โดยในปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการสร้างห้องน้ำหญิงใหม่ ให้เกิดความสะดวกกับแม่ และเด็กมากขึ้น