สภาฯ สหรัฐฯ เห็นชอบมาตรการบรรเทาวิกฤต “หน้าผาการคลัง”

สภาผู้แทนราษฏรของสหรัฐฯได้ลงมติเสียงข้างมากเห็นชอบข้อเสนอในการบรรเทาวิกฤต"หน้าผาการคลัง"แล้ว ซึ่งมาตราการดังกล่าวจะปรับขึ้นภาษีในกลุ่มคนรวย และคงสวัสดิการสังคมสำหรับชนชั้นล่างต่อไป

สภาผู้แทนราษฏรมีมติเสียงข้างมาก 257 ต่อ 167 เสียง เห็นชอบข้อเสนอในการบรรเทาวิกฤต"หน้าผาการคลัง" ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภามาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งกระบวนการต่อไปคือให้ นายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามเพื่อให้มีผลบังคับใช้

ด้านนายบารัค ได้แถลงหลังเสร็จสิ้นการลงมติว่า มาตรการดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งก้าวที่จะนำไปสู่ความพยายามในการแก้ปัญหา ซึ่งงบประมาณของสหรัฐฯ ยังขาดดุลจำนวนมหาศาล นอกจากนี้มาตรการดังกล่าวยังช่วยให้การจัดเก็บภาษีชาวอเมริกันมีความเป็นธรรมมากขึ้น

เนื้อหาหลักๆ ของมาตรการดังกล่าวคือ จะไม่มีการขึ้นภาษีกับชนชั้นกลาง แต่จะขึ้นภาษีกับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 400,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อปี และครอบครัวที่มีรายได้มากกว่า 450,000 หมื่นดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อปี ส่วนการตัดลดรายจ่ายในส่วนของกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานในประเทศมูลค่า 24,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จะยืดเวลาออกไปอีก 2 เดือน เพื่อให้ทำเนียบขาว และสภานิติบัญญัติได้หารือเรื่องนี้กันอีกครั้ง นอกจากนี้ยังได้ยืดเวลาจ่ายเงินประกันให้คนว่างงานออกไปอีก 1 ปี ซึ่งจะครอบคลุมคนว่างงานที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้านคน

ขณะที่กำหนดเส้นตายที่รัฐบาลสหรัฐฯจะต้องหาข้อสรุปได้ผ่านพ้นไปแล้ว ในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากวันนี้ (2 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ ยังถือเป็นวันที่ 1 มกราคมซึ่งเป็นวันหยุดจึงไม่มีผลกระทบมากนัก ในขณะที่ตลาดหุ้นของฝั่งเอเชียซึ่งเปิดตลาดไปแล้ว ต่างปรับตัวอยู่ในแดนบวกขานรับข่าวดีที่มาตรการบรรเทาวิกฤตหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฏร จึงทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงอย่างที่คาดการณ์ไว้