ศิลปะแห่งวาทะ

ศิลปะแห่งการพูดและบุคลิกภาพ เป็นศาสตร์สำคัญในการสื่อสารเพื่อบรรลุจุดประสงค์ที่ต้องการ ในห้วงเวลาที่มีการแข่งขันทางการเมือง ศิลปะทั้งสองแขนงจึงกลายเป็นสีสัน ขณะเดียวกันก็อาจมีผลต่อชัยชนะในการเลือกตั้ง

       ภาพยนตร์เรื่อง The King's Speech ที่สร้างจากชีวิตจริงของพระเจ้าจอร์จที่ 6 ที่แม้มีปัญหาบกพร่องทางการพูดด้วยอาการติดอ่าง หากการฝึกพูดจนมีวาทะศิลป์ ได้ช่วยให้ปมด้อยนั้นถูกมองข้าม และเป็นที่ยอมรับของประชาชน อาจเป็นตัวอย่างของพลังแห่งโวหารในภาพยนตร์ หากโลกของความเป็นจริง ศาสตร์การพูดถือเป็นทักษะสำคัญของผู้นำทางการเมือง  การแถลงนโยบาย การดีเบต หรือแม้กระทั่งสุนทรพจน์ที่จับใจล้วนเป็นศิลปะ ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างความประทับใจ และเป็นเครื่องมือสื่อสารที่เข้าถึงมวลชนได้อย่างรวดเร็ว ทั้งชัยชนะของบารัค โอบาม่า ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จากนโยบายหาเสียงด้วยถ้อยคำเรียบง่ายแต่มีความหมายยิ่งใหญ่อย่าง "Change" หรือเปลี่ยนแปลง ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจน ถึงพลังของภาษาในโลกของการเมือง

        นอกจากศาสตร์การเจรจาสิ่งที่จะช่วยขับเน้นให้บุคคลดูโดดเด่น คงปฏิเสธไม่ได้ถึงภาษาร่างกาย  สีหน้า แววตา การวางมือในตำแหน่งที่เหมาะสม ตลอดจนรายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ หมายรวมถึงการแต่งกาย ล้วนเป็นเทคนิคที่ผู้ปรากฎกายต่อสาธารณะ จำเป็นต้องปฏิบัติเพื่อดึงดูดความสนใจ สำหรับแวดวงการเมืองไทยทุกครั้งที่มีการรณรงค์เลือกตั้งจึงไม่น่าแปลกใจ ที่จะได้เห็นศิลปะของนักการเมืองทั้งทางกายและวาจา ซึ่งทั้งหมดไม่ได้มาจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมาจากการฝึกฝน รวมไปถึงการวางแผนเพื่อสร้างคะแนนนิยมเหนือคู่แข่ง

         หากการเมืองคือเรื่องของการช่วงชิงมวลชน ศิลปะแห่งวาทะและภาพลักษณ์ที่น่าชม ก็น่าจะเป็นเครื่องทางการตลาด ที่อาจพลิกสถานการณ์และตัดสินชัยชนะในการเลือกตั้งได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้รับชม ที่จะใช้ศิลปะแห่งวิจารณญาณ เลือกรับสารที่เป็นสาระแท้จริง โดยไม่อิงอยู่เพียงสีสันทางการเมือง