รมต.คลังยูโรโซนเปลี่ยนเงื่อนไขเก็บภาษีเงินฝากไซปรัส ปกป้องผู้ฝากเงินรายย่อย

ต่างประเทศ
19 มี.ค. 56
02:49
40
Logo Thai PBS
รมต.คลังยูโรโซนเปลี่ยนเงื่อนไขเก็บภาษีเงินฝากไซปรัส ปกป้องผู้ฝากเงินรายย่อย

ความคืบหน้าเรื่องมาตรการเก็บภาษีเงินฝากของรัฐบาลไซปรัส รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนประชุมมีมติให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยจะเก็บภาษีจากบัญชีเงินฝากที่มีเงินมากกว่า 4 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อปกป้องผู้ฝากเงินรายย่อย

ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงนิโคเซีย เมืองหลวงของไซปรัส เพื่อประท้วงมาตรการเก็บภาษีเงินฝากซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากธนาคารกลางของยุโรปมูลค่าหมื่นล้านยูโรหรือประมาณ 400,000 ล้านบาท
 
แต่ล่าสุดที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรเป็นหลักหรือยูโรโซนซึ่งประชุมที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยมมีมติให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขดังกล่าว โดยจะให้ไซปรัสเก็บภาษีเงินฝากเฉพาะบัญชีที่มีเงินฝากมากกว่าหนึ่งแสนยูโรหรือประมาณ 4 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อปกป้องผู้ฝากเงินรายย่อยไม่ให้ได้รับผลกระทบมากนัก ทั้งนี้เงื่อนไขเดิมกำหนดให้เก็บภาษีจากบัญชีเงินฝากทุกบัญชีโดยไม่มีการยกเว้น โดยบัญชีที่มีเงินฝากไม่ถึงหนึ่งแสนยูโรหรือประมาณ 4 ล้านบาทจะเสียภาษีร้อยละ 6.75 สำหรับบัญชีที่มีเงินฝากมากกว่านั้นจะเสียภาษีร้อยละ 9.9
 
กระแสความไม่พอใจของชาวไซปรัสและรัฐบาลหลายๆประเทศรวมถึงในยุโรป ส่งผลให้รัฐบาลไซปรัสต้องทบทวนเรื่องนี้อย่างหนัก และได้เลื่อนการลงมติจากเมื่อวาน18 มี.ค. มาเป็น 19 มี.ค. ขณะที่ธนาคารในไซปรัสได้ประกาศหยุดทำการจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อรอดูสถานการณ์ว่ารัฐบาลไซปรัสจะจัดการอย่างไร เพราะหากเปิดทำการในขณะที่ยังไม่มีข้อยุติ ก็อาจจะทำให้ลูกค้าแห่มาปิดบัญชีเพราะกลัวว่าจะถูกหักเงินเป็นค่าภาษี จะยิ่งส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของธนาคารไซปรัสให้แย่ยิ่งกว่าเดิม
 
มาตรการเก็บภาษีเงินฝากไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในไซปรัสเท่านั้น แต่จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างไซปรัสกับรัสเซียด้วย เนื่องจากมีชาวรัสเซียจำนวนมากที่นำเงินมาฝากและลงทุนในไซปรัสรวมมูลค่าหลายพันล้านยูโร เนื่องจากภาษีในการทำธุรกิจต่ำและกฎระเบียบก็ไม่ยุ่งยาก นายจอร์จ ไลไลก้า ห้วหน้าพรรคฝ่ายค้านของไซปรัสได้โจมตีเรื่องนี้ โดยบอกว่าหากฝืนใช้มาตรการนี้จะทำให้ชาวรัสเซียถอนการลงทุนและกลายเป็นหายนะของชาติ

แต่ขณะเดียวกันหากไซปรัสไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ก็จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือประมาณ 400,000 ล้านบาท จะทำให้ธนาคารที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งของไซปรัสล้มละลาย หลังจากแบกรับหนี้สินของประเทศกรีซไว้มากทีเดียว 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง