ครม. เตรียมเสนอ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านเข้าสภาฯ วันนี้ (20 มี.ค.)

การเมือง
20 มี.ค. 56
00:45
51
Logo Thai PBS
ครม. เตรียมเสนอ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านเข้าสภาฯ วันนี้  (20 มี.ค.)

คณะรัฐมนตรี จะเสนอร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายต่อการใช้เงินงบประมาณอย่างโปร่งใส และ การเป็นภาระหนี้ระยะยาวถึง 50 ปี

 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (19 มี.ค.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านล้านบาท ในวันนี้ (20 มี.ค.) รัฐบาลจะเสนอร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวบรรจุวาระในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าที่ประชุมสภาฯจะสามารถพิจารณาในวาระแรกได้ ก่อนจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาในรายละเอียดของเนื้อหาต่อไป โดยคาดว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จะสามารถผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร คู่ขนานกับพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2557 ที่จะพิจารณาเสร็จสิ้น ภายในเดือนกันยายนปีนี้

ท้งนี้ นายกิตติรัตน์  ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าในการกู้เงินจะเป็นเแหล่งงินกู้ในประเทศส่วนใหญ่ โดย จะรักษาวินัยทางการคลังควบคุมให้หนี้สาธารณะไม่เกินร้อยละ 50 ของจีดีพี พร้อมเตรียมแผนชำระหนี้ ในช่วงปีที่1-10 ปี ชำระดอกเบี้ย 20,000 ล้านบาท และในปีที่ 11 เป็นต้นไปจะชำระเงินต้นควบคู่ดอกเบี้ย โดยคาดว่าจะชำระหนี้วงเงิน 2 ล้านล้านได้ภายใน 50 ปี

ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เห็นว่า ระยะเวลาชำระหนี้ 50 ปี เป็นเวลาที่ยาวนานเกินไป และจะตกเป็นภาระของประชาชน

ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าพร้อมจะชี้แจง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ต่อสภาผู้แทนราษฎร ด้วยตัวเอง โดยยืนยันว่าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมที่จะทำให้ประเทศได้รับประโยชน์ โดยรัฐบาลจะพยายามทำตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยความรัดกุม โปร่งใส และ ประชาชนสามารถตรวจสอบได้

ขณะที่ภาคเอกชน เห็นว่าแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศระยะยาว ช่วยลดต้นทุนขนส่งจากปัจจุบันร้อยละ 18 เหลือร้อยละ 10 โดยรัฐบาลจะต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส และ สามารถให้ประชาชนเข้าตรวจสอบได้ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง