เพื่อไทยส่ง 
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า เป็นกลยุทธ์ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากที่รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการแก้ไขทั้งฉบับได้ จนกระทั่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับค้างการพิจารณาในสภาอยู่จนถึงทุกวันนี้ จึงมีการเปลี่ยนเป็นการแก้ไขรายมาตรา
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีผู้แสดงความจำนงอภิปรายเกิน 30 คน ส่วนระยะเวลาที่ได้นั้นยังไม่เป็นที่ยุติ จะต้องมีการหารือกับวิปรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่า ฝ่ายค้านจะต้องได้รับเวลาไม่น้อยกว่ารัฐบาล
สำหรับวิปฝ่ายค้านมีมติไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการแก้ไขที่มีลักษณะต่างตอบแทน โดยที่ประเทศชาติและประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ แต่เป็นผลประโยชน์เฉพาะฝ่ายการเมืองหรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล และนายอุดมเดช รัตนเสถียร ที่ปรึกษาวิปรัฐบาล จะนำเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสามร่าง จากนั้นจะเปิดโอกาสให้ ส.ส.อภิปรายสนับสนุนและคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ
สำหรับในมาตรา 190 พรรคเพื่อไทย จะส่งนายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร เป็นผู้นำทีมอภิปราย เรื่องที่มาของส.ว. ส่งนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย นำทีมอภิปราย ส่วนมาตรา 237 พ่วงมาตรา 68 ซึ่งคาดว่า เป็นประเด็นที่จะอภิปรายถกเถียงกันอย่างรุนแรงนั้น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะนำทีมอภิปราย
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการแก้ไขในรายมาตราอยู่แล้ว และสมาชิกรัฐสภาก็สามารถที่จะร่วมกันถกถ้อยแถลงต่างๆ และแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างเต็มที่