นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายเห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราทั้ง 3 ฉบับ โดยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ที่ต้องมาจากการเลือกตั้งเนื่องจากตามรัฐธรรมนูญนั้น อำนาจสูงสุดคืออำนาจอธิปไตยของประชาชน ซึ่งการที่ให้บุคคล 7 คนเป็นคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชน ถือว่าเป็นการริดรอนสิทธิของประชาชน ซึ่งการแก้ไขมาตราดังกล่าว จะเป็นการรื้อฟื้นประชาธิปไตยคืนสู่ประชาชน
ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่าด้วยเรื่องพิทักษ์รัฐธรรมนูญในการใช้สิทธิ์ของประชาชน ซึ่งการที่ประชาชนร้องเรียนต่ออัยการสูงสุดได้เท่านั้นเพื่อให้อัยการสูงสุดได้มีการกรองเรื่องร้องเรียนก่อนยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้มีการร้องเรียนโดยตรงที่ศาลรัฐธรรมนูญมากจนเกินไป
ขณะที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ว่าด้วยเรื่องการยุบพรรคการเมือง นพ.เหวง ระบุว่าตามกฎพื้นฐานใครทำอะไรผิด คนคนนั้นสมควรได้รับโทษ และพรรคการเมืองถือเป็นสมบัติของประชาชน ซึ่งการยุบพรรคนั้นเป็นการริดรอนสิทธิของประชาชน
ด้านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ว่าด่วยเรื่องการทำสนธิสัญญากับต่างประเทศ นพ.เหวงกล่าวว่าแก้เพื่อให้อำนาจแก่ฝ่ายบริหารอย่างแท้จริง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการริดรอนสิทธิของประชาชน หรือเกื้อหนุนบุคคลบางกลุ่มแต่อย่างใด
ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ที่ผ่านมา ในการประชุมร่วมรัสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เกิดการประท้วงนานกว่า 20 นาที เนื่องจาก นายอภิชาติ สุภาแพร่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงนายนิคม ไวรัชพานิช รองประธานรัฐสภาขณะทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ที่รับรองการอภิปรายของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ที่กล่าวถึงบุลคลภายนอก ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับของที่ประชุมรัฐสภา