ซีเรียขยายปราบประชาชน

ผลจากการที่ทหารซีเรียใช้รถถังบุกลัดเลาะไปตามหมู่บ้านทั้งเขตเมืองและเขตชนบทใกล้พรมแดนตุรกีคือประชาชนทั่วไปต่างหวาดกลัวและพากันหนีออกจากบ้าน ซึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่า ทหารบุกค้นทุกบ้านและยิงประชาชนเสียชีวิตไปหลายคน โดยหากบ้านไหนเข้าไปแล้วไม่มีคนอยู่ ทหารก็จะหยิบฉวยทุกอย่างที่ขโมยได้และก่อนกลับออกมาก็จะเผาทิ้ง

 

รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อั๊ดซ้าด ซึ่งสืบทอดมาจากตระกูลที่กุมอำนาจในซีเรียมากว่า 40 ปี อ้างว่า การส่งทหารเข้ามาในจังหวัดญีสราลชูกัวร์ครั้งนี้ ก็เพื่อปราบปรามกลุ่มติดอาวุธที่สังหารเจ้าหน้าที่ไปเมื่อหลายวันก่อน 120 คน

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดญีสราลชูกัวร์ระบุว่า ทหารจะไม่ทำร้ายใคร นอกจากเข้ามาจับกุมบุคคลตามบัญชี 320 รายชื่อ แต่ผู้อพยพรายหนึ่งระบุว่า ชั่วชีวิตไม่เคยจับปืนแต่กลับมีชื่ออยู่ในบัญชีทำให้ต้องหนี โดยตลอดแนวชายแดนที่ติดกับตุรกีเวลานี้คาดว่ามีชาวซีเรียประมาณ 10,000 คนรอจังหวะข้ามไปยังตุรกี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ข้ามไปอยู่ในศูนย์อพยพแล้วประมาณ 8,000 คน

 

นานาชาติกำลังกังวลกับสถานการณ์ปราบปรามประชาชนในซีเรีย โดยองค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่า รัฐบาลซีเรียใช้ข้ออ้างเข้าปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ แต่กลับขยายการปราบปรามประชาชนที่ต่อต้านการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ที่ดำเนินมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมจนทำให้ผู้ประท้วงเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 1,300 คน

 

สหประชาชาติยังไม่มีความเคลื่อนไหวอย่างเป็นรูปธรรมในซีเรีย ซึ่งชาวซีเรียระบุว่า สหประชาชาตินิ่งดูดายและปล่อยให้ประชาชนถูกรัฐบาลของตัวเองเข่นฆ่า ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ แถลงว่า สหรัฐฯ ขยะแขยงต่อการปราบปรามประชาชนของรัฐบาลซีเรีย และประธานาธิบดีบาชาร์กำลังทำได้ดีที่จะให้ตัวเองกลายเป็นวายร้ายสากล