กสทช. ลดค่าบริการ 3G ลง 15%
โดย พรเทพ เบญญาอภิกุล โครงการติดตามนโยบายสื่อและโทรคมนาคม (NBTC Policy Watch)
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมแห่งชาติ (กสทช.) ประกาศอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่านความถี่ 2.1 GHz (คลื่น3G) ใหม่ โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการทุกรายลดราคาค่าบริการลงร้อยละ 15 จากราคาค่าบริการ 2G ณ วันที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการบนคลื่น 3G โดยอัตราดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เป็นต้นมา
แนวคิดการบังคับให้ผู้ประกอบการลดราคาค่าบริการ 3G ลงนั้น เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกภายหลังการประมูลคลื่น 3G เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 ไม่นาน ซึ่งเป็นผลมาจากการประมูลที่ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวางเมื่อราคาสุดท้ายต่ำกว่าราคาประเมินจากงานศึกษาของทีมที่ปรึกษาที่ กสทช. เป็นผู้ว่าจ้างเองถึงกว่า 20% เพื่อลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กสทช. ตัดสินใจเพิ่มเงื่อนไขการลดราคาดังกล่าวเป็นข้อกำหนดแนบท้ายใบอนุญาตซึ่งผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2556 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ครั้งที่ 16/2556 ได้มีมติกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติ่มของการลดอัตราค่าบริการซึ่งมีสาระสำคัญสองประการ ดังนี้
1. ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 2.1GHz ที่ได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2555 นำรายการส่งเสริมการขายที่ปรากฏในตลาดในปัจจุบัน ไปใช้ในการให้บริการบนโครงข่ายย่าน 2.1GHz นั้น ผู้ให้บริการจะต้องปรับลดอัตราค่าบริการลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ในแต่ละรายการส่งเสริมการขายดังกล่าว ทั้งนี้ จนกว่าคณะกรรมการจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
2. สำหรับรายการส่งเสริมการขายใหม่ของผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 2.1GHz ที่ได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2555 จะต้องกำหนดรายการส่งเสริมการขายให้เป็นไปตามเงื่อนไขในการอนุญาต กล่าวคือ ต้องกำหนดอัตราค่าบริการที่ลดลงโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละสิบห้าของอัตราค่าบริการเฉลี่ยของบริการประเภทเสียง (voice) และบริการที่ไม่ใช่ประเภทเสียง (non-voice) ที่มีการให้บริการอยู่ในตลาด ณ วันที่ได้รับใบอนุญาต ทั้งนี้ จนกว่าคณะกรรมการจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
สำหรับรายละเอียดข้อแรกเป็นที่ชัดเจนว่าหากผู้ประกอบการ “เลือก” ใช้รายการส่งเสริมการขายหรือแพคเกจเดิมเพื่อให้บริการในโครงข่าย 3G ราคาของแพคเกจเหล่านั้นทั้งหมดจะต้องลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 จากราคาในปัจจุบัน (ณ วันที่ 1 พ.ค. 2556) อย่างไรก็ดี เนื่องจากข้อกำหนดดังกล่าวมิได้บังคับให้ผู้ประกอบการนำรายการส่งเสริมการขายจากระบบเดิมมาให้บริการในระบบ 3G ดังนั้นผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากมติ กทค. ในข้อแรกก็ต่อเมื่อ 1. ผู้ประกอบการ “เลือก” ที่จะใช้แพคเกจเดิมต่อไปในโครงข่าย 3G และ 2. ผู้บริโภคอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่สามารถเลือกใช้แพคเกจนั้นๆ ได้ เช่นเป็นลูกค้าที่โอนย้ายจากโครงข่าย 2G ไป 3G ภายใต้ผู้ให้บริการเดิม
** อ่านรายละเอียดต่อในไฟล์ Word **