ตำรวจระดมกำลังเพิ่ม 4 กองร้อย ดูแลสถานการณ์ม็อบสวนยาง จ.ประจวบฯ
วันนี้ (6 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส รายงานว่า สถานการณ์การชุมนุมชาวสวนยางพารา ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บริเวณถนนเพชรเกษมขาเข้า ช่วง อ.บางสะพาน ขณะนี้คลี่คลายแล้ว โดยเส้นทางการจราจรถนนเพชรเกษม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงถูกปิดเส้นทางการจรจรทั้งขาขึ้น-ล่อง อยู่ โดยผู้ใช้รถสามารถเลี่ยงไปใช้เส้นทางสายใน อ.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯได้ เนื่องจากขณะนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบพื้นที่ บริเวณ ถ.เพชรเกษม และจุดที่รถยนต์ของผู้สื่อข่าวถูกเผาทำลายในช่วงเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป
พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมระบุว่า จะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุในเรื่องของการชุมนุมบนพื้นผิวจราจร และก่อเหตุเผารถยนต์ พร้อมทั้งนำกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเพิ่มอีกจำนวน 4 กองร้อย เข้ามาประจำการในพื้นที่ รวมทั้งหมด 9 กองร้อย ขณะที่ประชาชนในพื้นที่กว่า 100 คนได้ออกมาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามบริเวณหน่วยบริการประชาชนธรรมรักษ์
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. จะเดินทางมายังพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุและฟังบรรยายสรุปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างละเอียดรอบคอบซึ่งยังรวบรวมหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ และตำรวจเผยว่า พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ขณะนี้ยังไม่มีท่าทีจากฝั่งของกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะกลับมาชุมนุมอีกครั้งหลังจากยุติการชุมนุมไปเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (6 ก.ย.) โดย ประชาชนในพื้นที่ ระบุว่า ต้องการให้สื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างเป็นธรรมตามข้อเท็จจริง ขณะที่ การควบคุมตัวแกนนำชาวสวนยางทั้ง 12 คน นั้นได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของการสอบสวน