พท.ชี้กลุ่มเคลื่อนไหวชูประเด็น
ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม ด้วยกำลังตำรวจ 15 กองร้อย หรือราว 2,000 นาย ประกอบกับบริเวณด้านหน้าบ้านพักส่วนตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายในซอยโยธินพัฒนา 3 มีผู้ชุมนุม กลุ่มวิทยุประชาชนเพื่อประชาชน หรือ กวป.ปักหลักจะขอเข้าพบให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย จึงทำให้การพูดคุยทำความเข้าใจกับเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงษ์ ยอมยุติการเดินทางไปปักหลักชุมนุมขอยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ถอนตัวออกจากการเป็นภาคีของศาลโลก ก่อนการตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร และตอบรับที่จะรอการประสานรับหนังสือภายในสัปดาห์นี้ ก่อนตัดสินใจเดินทางมาอีกครั้ง
ขณะเดียวกันนี้ สภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย นำโดยนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ร่วมประกาศเจตนารมณ์โค่นล้มระบอบทักษิณและรัฐบาล ด้วยเชื่อว่าบริหารบ้านเมืองผิดพลาดและเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมระบุมี 2 เงื่อนไขที่ต้องเตรียมพร้อมชุมนุมใหญ่ คือการสูญเสียอธิปไตยจากคดีปราสาทพระวิหาร และการผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ส่วนการชุมนุมแสดงออกคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น กลุ่มวันอาทิตย์สีแดงพร้อมมวลชนส่วนหนึ่ง ร่วมกิจกรรม "เราไม่ลืม" ที่แยกราชประสงค์ ทั้งการแสดงนอนตาย การตะโกนด้วยถ้อยคำเสียดสีต่อว่า และการผูกป้ายผ้าสีแดง เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุวิกฤตการเมือง เมื่อปี 2553 โดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ระบุว่าหากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้รับความเห็นชอบ จะกลายเป็นการสร้างมาตรฐานส่งเสริมให้คนกระทำผิด
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงชี้ว่า การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่เกิดขึ้น มีเจตนาหวังล้มรัฐบาล ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง กรณีการตรากฎหมายนิรโทษกรรม และคดีปราสาทพระวิหาร รวมถึงกรณีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ปิดถนนเรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหา ก็มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง