ประชุม"รัฐสภา" ถกคำตัดสินคดี"ปราสาทพระวิหาร"

การเมือง
13 พ.ย. 56
04:34
103
Logo Thai PBS
ประชุม"รัฐสภา" ถกคำตัดสินคดี"ปราสาทพระวิหาร"

รัฐสภาเตรียมพิจารณาวาระการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 เพื่อชี้แจงและหารือประเด็นปัญหาปราสาทพระวิหาร หลังศาลโลกมีคำตัดสิน โดยฝ่ายค้าน ตั้งข้อสังเกตถึงความจริงใจของรัฐบาล หลังกำหนดกรอบพิจารณาไว้เกือบ 2 ชั่วโมง ขณะที่ รัฐบาลยืนยันความพร้อมในการชี้แจง ทั้งผลของคำตัดสินและขั้นตอนปฏิบัติหลังจากนี้

การประชุมรัฐสภาวันนี้ (13 พ.ย.) จะเริ่มด้วยวาระการพิจารณาร่างกรอบการเจรจาความตกลง เพื่อความร่วมมือด้านภาษีอากรระหว่างประเทศและการปฏิบัติตาม ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณา ตามที่รัฐบาลทำหนังสือถึงประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ที่ประชุมรัฐสภาเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เพื่อหารือ และร่วมกันระดมความเห็นข้อเสนอแนะ ต่อกรณีการตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวยืนยันถึงความพร้อมของรัฐบาล ที่จะชี้แจงผลของคำตัดสินของศาลโลกต่อรัฐสภา และกล่าวย้ำถึงการดำเนินการใดๆของรัฐบาลหลังจากนี้ โดยเฉพาะกรอบในการเจรจาหารือกับกัมพูชา จะนำเข้าหารือและขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน

<"">
<"">

โดยการชี้แจงต่อรัฐสภาวันนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ จะเป็นผู้ชี้แจงหลัก โดยเฉพาะขั้นตอนปฏิบัติหลังจากนี้ คือการยกร่างกรอบการเจรจาภายใต้กลไกคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา หรือ เจซี รวมถึงตอบคำถามข้อห่วงใยของสมาชิกรัฐสภา ที่เตรียมสอบถามถึงความชัดเจนในสิทธิอธิปไตย และปัญหาเขตแดน

โดยเช้าวันนี้ นายวีรชัยจะเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หลังเดินทางกลับจากกรุงเฮกเมื่อช่วงเช้า เพื่อรายงานสรุปผลคำตัดสินของศาล ก่อนเข้าชี้แจงต่อสภา และด้วยกรอบเวลาที่ถูกกำหนดไว้เพียง 2 ชั่วโมง ทำให้นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน ตั้งข้อสังเกตถึงความจริงใจของรัฐบาล ในการขอเปิดการอภิปรายทั่วไปในครั้งนี้ เพราะเห็นว่ากรอบเวลาค่อนข้างจำกัดต่อการอภิปรายให้ความเห็น ประกอบกับในขณะนี้ ถือว่าปัญหาได้คลี่คลายลงในระดับหนึ่งหลังศาลโลกมีคำตัดสินแล้ว จึงมองเจตนาการเปิดการอภิปรายเป็นเพียงความพยายามในการสร้างภาพลักษณ์ของรัฐบาลเท่านั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง