ภาคเอกชนขอทุกฝ่ายหาทางออกการเมือง หวั่นกระทบศก. อาจสูญรายได้ 2.5 หมื่นล้าน

เศรษฐกิจ
2 ธ.ค. 56
14:09
34
Logo Thai PBS
ภาคเอกชนขอทุกฝ่ายหาทางออกการเมือง หวั่นกระทบศก. อาจสูญรายได้ 2.5 หมื่นล้าน

จากปัญหาการเมืองที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ และรุนแรงขึ้น มีความพยายามจากหลายภาคส่วน ที่จะร่วมหาทางออกให้กับประเทศ ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และอีก 4 สถาบันเอกชน ออกแถลงการณ์ 4 ข้อ โดยขอให้ทุกฝ่ายเจรจา และแก้ปัญหาโดยสันติวิธีโดยเร็ว เพื่อลดการสูญเสีย และผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ภายหลังการหารือ สภาอุตสาหกรรมฯ, สภาหอการค้าฯ, สมาคมธนาคารไทย, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ, สภาธุรกิจตลาดทุนไทย, สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เสนอข้อเรียกร้อง 4 ข้อ

 
โดยขอให้ทุกฝ่ายแสวงหาทางออก ด้วยวิธีการเจรจา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก หลังจากมีการเลือกตั้งใหม่ ทั้งยังไม่เห็นด้วยกับการดำเนินกลยุทธ์ทางการเมือง โดยการสร้างเงื่อนไข แต่ควรทำตามกติกา ซึ่งหากสถานการณ์ความขัดแย้งบานปลาย จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงความเชื่อมั่นของไทยในเวทีโลก ที่มีความเสี่ยงว่า จะถูกจัดกลุ่มเป็น เฟล สเตท (failed state) หรืออนาธิปไตย ซึ่งกระทบภาพลักษณ์ของประเทศ ในส่วนของการท่องเที่ยว หากต่างประเทศปรับเพิ่มระดับความรุนแรง ของสถานการณ์การเมืองในไทย อาจทำให้สูญเสียรายได้ถึง 25,000 ล้านบาท
 
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมเป็นต้นมา มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นแล้ว 4-5 หมื่นล้านบาท หากความขัดแย้งยังไม่ยุติ เม็ดเงินจะไหลออกอย่างต่อเนื่อง
 
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย คาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะเติบโตเพียงแค่ร้อยละ 2 และหากความขัดแย้งยืดเยื้อ คาดว่า ปีหน้าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพียงร้อยละ 3 จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4-5
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง