อดัม แซนด์เลอร์ ดาราผู้มีค่าตัวเกินจริงของปี 2013 
การลงทุนแต่งหญิงเพื่อเล่นเป็นฝาแฝดของตนเองใน Jack and Jill หนังตลกปี 2011 ของ อดัม แซนด์เลอร์ นอกจากไม่เป็นที่ตอบรับจากผู้ชมแล้ว ยังเป็นหนังที่ถูกนักวิจารณ์ดูแคลน จนทำสถิติเป็นผลงานที่คว้ารางวัลราซซี อวอร์ดส์ครบทุกสาขาเป็นเรื่องแรก แต่รายได้ยังไม่ย่ำแย่เท่าผลงานเรื่องต่อมาอย่าง That's My Boy หนังปีก่อนที่ขาดทุนจากการฉายกว่า 360 ล้านบาท คือความล้มเหลวในยุคหลังของ อดัม แซนด์เลอร์ ดาวตลกชื่อดัง ที่ถูกฟอร์บส์ นิตยสารด้านการเงินของสหรัฐฯ จัดให้เป็นนักแสดงที่มีค่าตัวเกินจริงมากที่สุดของปี 2013
อดัม แซนด์เลอร์ สร้างชื่อจากผลงานตลกหลากหลายแนวในยุค 90 ก่อนจะผันตัวมาสร้างหนังตลกที่มีเนื้อหาดราม่ามากขึ้นในช่วงยุค 2000 ทั้ง 50 First Dates, Spanglish, Click และ Reign Over Me ความสำเร็จต่อเนื่องบนบ็อกซ์ออฟฟิศ ทำให้เขากลายเป็นในดาราชั้นนำของวงการ มีค่าตัวในปัจจุบันที่ 15 ล้านดอลลาร์ หรือ 450 ล้านบาทต่อการแสดงหนัง 1 เรื่อง แต่ความล้มเหลวของผลงานในช่วงไม่กี่ปีมานี้ส่งผลต่อการทำรายได้ของหนังหลายเรื่อง ซึ่งฟอร์บส์ คำนวณว่าทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ค่ายหนังลงทุนกับไปกับเขาในวันนี้ จะตอบแทนเป็นรายได้กลับมาเพียง 3.4 ดอลลาร์เท่านั้น
อันดับดังกล่าวเกิดจากการคำนวณค่าจ้างนักแสดง กับทุนสร้าง และการทำเงินของหนังจำนวน 3 เรื่องที่นักแสดงรายนั้นๆ ฝากผลงานในช่วง 3 ปีล่าสุด ซึ่งปีนี้มีดาราดังติดอันดับนักแสดงทำเงินไม่คุ้มค่าจ้างมากมายทั้งเจนนิเฟอร์ อนิสตัน และ แม็ต เดมอน แม้แต่นักแสดง ซึ่งมีดีกรีรางวัลออสการ์ทั้ง ริส วิทเธอร์สปูน, นิโคลัส เคจ และ แดนเซล วอชิงตัน ที่ทำเงินประมาณ 8 - 10 ดอลลาร์ จากทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ค่ายหนังลงทุนไปกับค่าจ้างของพวกเขา
ดาราดังที่เคยครองแชมป์นักแสดงที่ได้ค่าจ้างเกินจริงจากฟอร์บส์ มีทั้ง เอ็ดดี้ เมอร์ฟีย์ แชมป์ปีก่อน ที่กลับมาร้องเพลงเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังประกาศเตรียมตัวเกษียณตัวเองจากการแสดง ส่วนแชมป์ปี 2011 อย่าง ดรูว์ แบร์รีมอร์ ซึ่งครองสถิติของฟอร์บส์ ด้วยการทำรายได้เพียง 40 เซนต์ จากค่าจ้างทุกๆ 1 ดอลลาร์ ซึ่งปีนี้นักแสดงสาววัย 38 ปี ไม่ติดโผของฟอร์บส์ เนื่องจากมีผลงานออกฉายน้อยเกินไป