ปลัด ก.คลังเรียกประชุมแบงก์รัฐ วางมาตรการสนองนโยบายรัฐบาลใหม่
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังเชิญผู้บริหารสถาบันการเงินของรัฐ อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย หารือเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลหาเสียงไว้ เนื่องจากเป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อ ของธนาคารของรัฐ เช่น โครงการบัตรเครดิตเกษตรกร รับจำนำข้าว โครงการบ้านหลักแรก รถคันแรก โครงการพักชำระหนี้ครัวเรือนที่มีหนี้ไม่เกิน 500,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี และ การเพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติอีกกองทุนละ 1 ล้านบาท ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยประเมินว่านโยบายของพรรคจะต้องใช้สินเชื่อจากระบบธนาคารพาณิชย์กว่า 600,000 ล้านบาท
ขณะที่นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลใหม่โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยมองว่า ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศเริ่มลดลงเพราะปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปมีการตกลงแก้ไขได้ แต่ต้องจับตาเศรษฐกิจสหรัฐว่าจะมีแนวทางแก้ไขให้ดีขึ้นหรือไม่ เเต่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 4.5 ตามที่ สศค.ประมาณการไว้ซึ่งรัฐบาลใหม่ต้องเร่งพิจารณากรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2555 ที่กำหนดไว้แล้วว่าจะขาดดุลงบประมาณ 350,000 ล้านบาทด้วย
เบื้องต้นมองว่า อาจมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับนโยบาย หรือ โครงการลงทุนต่างๆ ของรัฐบาลใหม่ อาจส่งผลให้ล่าช้า ส่วนจะปรับเพิ่มขาดดุลงบประมาณเท่าไร่ขึ้นอยู่กับการจัดเก็บรายได้ โดยในปีงบประมาณ 2554 คาดว่าจะจัดเก็บได้เกินกว่าเป้าหมาย 120,000-190,000ล้านบาท ขณะเดียวกันมองว่าโครงการต่าง ๆ อาจยังไม่สามารถทำได้ทันภายในปีนี้ทั้งหมด