กระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่จาง แม้ปิด นสพ.นิวส์ออฟเดอะเวิลด์

ต่างประเทศ
10 ก.ค. 54
16:12
11
Logo Thai PBS
กระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่จาง แม้ปิด นสพ.นิวส์ออฟเดอะเวิลด์

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการวางจำหน่ายหนังสือพิมพ์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ที่ขายดีที่สุดของอังกฤษ ก่อนปิดตัวลง หลังเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการหาข่าวด้วยวิธีการเจาะข้อมูลโทรศัพท์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อกว่า 5 ปีก่อน แต่การปิดตัวของหนังสือพิมพ์ ยังก็ไม่สามารถลดกระแสความไม่พอใจลงได้

หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ฉบับสุดท้ายที่วางแผงในวันอาทิตย์นี้พาดหัวว่าขอบคุณและลาก่อน เป็นฉบับส่งท้ายหนังสือพิมพ์อายุ 168 ปี โดยบทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์ฉบับสุดท้าย เขียนยอมรับความผิดที่ใช้วิธีการที่ไม่พึงประสงค์ ด้วยการแฮกโทรศัพท์ในการหาข่าว ซึ่งมีการใช้วิธีการนี้ในช่วง 4-5 ปีกระทั่งถึงปี 2549

หนังสือพิมพ์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ฉบับสุดท้ายเพิ่มยอดพิมพ์จากเดิมอีก 1 เท่า รวม 5 ล้านฉบับ โดยรายได้จากการขายฉบับสุดท้ายนี้ จะนำไปบริจาคแก่องค์กรการกุศล 4 องค์กร

ขณะที่พนักงานทั้ง 200 คนของบริษัท พากันเดินออกจากสำนักงานด้วยอารมณ์แตกต่างกันไป มีทั้งผู้ที่ร้องไห้และผู้ที่อำลาด้วยรอยยิ้ม โดยบรรณาธิการบริหารของนิวส์ออฟเดอะเวิลด์ กล่าวสุนทรพจน์สั้นๆ ขอบคุณพนักงานทุกคน แต่ขณะเดียวกันมองว่าเรื่องไม่ควรจบลงเช่นนี้

ส่วนผู้อ่านมีปฏิกิริยาต่างๆ กันไปหลายคนมาซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับสุดท้ายเก็บเป็นที่ระลึก ขณะที่บางคนบอกว่าหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เป็นเหมือนยาพิษ แม้หนังสือพิมพ์จะถูกบริษัทแม่สั่งยุติการผลิตไปแล้ว แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์และความไม่พอใจที่เกี่ยวเนื่องกับการแฮกโทรศัพท์หาข่าว รวมทั้งข้อกล่าวหาว่านักข่าวของนิวส์ออฟเดอะเวิลด์เคยใช้เงินซื้อข้อมูลจากตำรวจ ยังไม่จางลง

และยังก่อให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นในแวดวงหนังสือพิมพ์ รวมทั้งการตรวจสอบสื่อในสหราชอาณาจักร ซึ่งนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้มีการยกเครื่องระบบตรวจสอบสื่อสารมวลชนเสียใหม่ ทั้งยังยืนยันจะเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อให้รู้แน่ชัดถึงต้นตอของพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น

สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษเรียกร้องให้เร่งทำคดีนี้โดยไม่ให้เรื่องการปิดหนังสือพิมพ์ มาเบี่ยงประเด็นการหาตัวผู้เกี่ยวข้องกับการแฮกโทรศัพท์ประชาชนประมาณ 4,000 คนเพื่อหาข่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง