เคป็อปรุกตลาดอาเซียนหลังถูกจีนแบน

ศิลปะ-บันเทิง
22 มี.ค. 60
07:54
720
Logo Thai PBS
เคป็อปรุกตลาดอาเซียนหลังถูกจีนแบน
ปีนี้นับเป็นปีทองสำหรับสาวกเคป็อปอย่างแท้จริง เมื่อกองทัพนักร้องเกาหลีใต้ต่างเดินทางมาเยี่ยมเยือนแฟนเพลงชาวไทยไม่ขาดสาย สาเหตุมาจากปัญหาทางการเมืองกับเพื่อนบ้าน ทำให้ค่ายเพลงเคป็อปกลับมาเน้นตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีแฟนเพลงพร้อมสนับสนุนไอดอลของพวกเขา

คำทักทายภาษาไทยของศิลปินเคป็อป เป็นสิ่งที่แฟนเพลงบ้านเราได้ยินกันชินหูตลอดทั้งปีนี้ เมื่อกองทัพนักร้องเกาหลีใต้ทยอยมาเปิดคอนเสิร์ตในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้ง แจจุง อดีตสมาชิกทงบังชินกิ ซึ่งมาเปิดการแสดงในเมืองไทยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามด้วยคอนเสิร์ตในไทยของวงดังอย่างบังทันบอยส์ และการเยือนไทยครั้งแรกของ GFriend และ Twice สองเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง โดยช่วงเดียวกันนี้ EXO บอยแบนด์แถวหน้าของเคป็อป ก็กำลังทัวร์คอนเสิร์ตทั้งในฟิลิปปินส์, มาเลเซีย และสิงคโปร์ เหล่านี้แสดงถึงการตื่นตัวของวงการเคป็อป ที่พร้อมใจกันกลับมาโปรโมทผลงานในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

อุปสรรคในการโปรโมทผลงานในประเทศจีนและญี่ปุ่น มาจากความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้ค่ายเพลงในเกาหลีใต้หันมาเน้นโปรโมทผลงานในย่านอาเซียนมากขึ้น โดยประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางของการเผยแพร่กระแสเกาหลีฟีเวอร์ในภูมิภาคนี้ มีการร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยและค่ายเพลงเกาหลีใต้ เพื่อร่วมกันจำหน่ายงานเพลงและจัดคอนเสิร์ตศิลปินเคป็อปในไทย ความสำเร็จเห็นได้จากคอนเสิร์ตวง EXO เมื่อปีก่อน ซึ่งทำรายได้ในไทยทั้ง 2 รอบถึง 120 ล้านบาท ไม่ต่างจากการเปิดคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นแม้แต่น้อย รวมถึงโครงการการปั้นไอดอลเคป็อปชาวไทย เพื่อขยายฐานแฟนคลับในไทยโดยเฉพาะ

ประเทศอาเซียนที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นชาติผู้นำของการเผยแพร่วัฒนธรรมเคป็อป คืออินโดนีเซีย ซึ่งหน่วยงานส่งเสริมวัฒนธรรมเกาหลีหรือ KOCCA ยกให้เป็นชาติที่ตลาดเพลงป็อปเกาหลีเติบโตรวดเร็วที่สุดในอาเซียน โดยคาดว่าตลาดเคป็อปในชาติที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก จะเติบโตขึ้นอีกร้อยละ 12 ภายในปี 2019 ปัจจัยยังมาจากความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง โจโก วีโดโด ผู้นำอินโดนีเซียกับวงการเคป็อป ล่าสุด ลีซูมาน ประธานค่ายเพลง SM Entertainment ยังได้รับเชิญมาร่วมงานประชุมสุดยอดธุรกิจอินโดนีเซีย-เกาหลี โดยเขาประกาศว่าเตรียมคัดเลือกไอดอลชาวอินโดนีเซียมาเป็นสมาชิกใหม่ของ NCT บอยแบนด์น้องใหม่ของค่าย ซึ่งเป็นวงที่ เตนล์ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล นักร้องชาวไทยเป็นสมาชิกอยู่ในขณะนี้

ชาติอาเซียนที่วงการเคป็อปจับตาเป็นอันดับ 2 คือเวียดนาม แม้ตลาดเคป็อปจะเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับไทย แต่ศักยภาพของเวียดนามคือการมีประชากรส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวในวัย 20-30 ปี ซึ่งหนุ่มสาวเวียดนามที่ชื่นชอบละครเกาหลีและไอดอลเคป็อปเป็นชีวิตจิตใจเหล่านี้ จะช่วยต่อยอดความสำเร็จของเคป็อปไปได้อีกหลายสิบปี แม้โอกาสในจีนแทบจะเป็นศูนย์ แต่วงการเคป็อปก็ไม่อาจทิ้งตลาดเพลงญี่ปุ่นไปได้ เนื่องจากแฟนเพลงที่นั่นมีความเหนี่ยวแน่นมาก หากพวกเขาชอบศิลปินรายใดแล้ว ก็จะติดตามสนับสนุนศิลปินคนนั้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง