เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.2560) นายอมร วาณิชวิวัฒน์ หนึ่งในกรรมการปฏิรูปตำรวจ เปิดเผยว่า ระหว่างการมอบนโยบายการปฏิรูปตำรวจ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนายกรัฐมนตรี จะย้ำใน 3 ประเด็นหลัก คือสังกัดและรูปแบบการกระจายอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, อำนาจการสอบสวนควรอยู่ที่ตำรวจ หรือแยกออกจากตำรวจ และเกณฑ์การบริหารงานบุคคลเชื่อมโยงการแต่งตั้งโยกย้าย นายกรัฐมนตรียังเขียนเอกสารด้วยลายมือ พร้อมยกตัวอย่างเรื่องสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้ไปขึ้นกับจังหวัดที่มีความพร้อม เพื่อบูรณาการทั้งนโยบายและการสั่งการ โดยให้คณะกรรมการทั้ง 36 คน พิจารณาถึงผลดี ผลเสีย และความเหมาะสม
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเคยเสนอแนวคิดให้ตำรวจขึ้นกับจังหวัดมาแล้ว และไปอยู่ในคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) แต่ต้องมีข้อสรุปเรื่องสายการบังคับบัญชา และวิธีการปฏิบัติงาน แนวคิดเรื่องการให้ตำรวจสังกัดจังหวัด สอดคล้องกับข้อเสนอของเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ และกลุ่มของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.
ขณะที่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อศึกษาแผนการปฏิรูปกิจการตำรวจ ในคณะกรรมการประสานงานระหว่าง สนช.และ สปท.เคยเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขึ้นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยให้เหตุผลเพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไว้ด้วยกัน ส่วนข้อเสนอให้แยกงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังมีความเห็นแตกต่างกัน โดยภาคประชาชนเห็นว่าควรแยกออก เพื่อความเป็นอิสระ
ขณะที่กลุ่ม กปปส.มองว่าอาจไม่จำเป็นต้องแยก ด้านคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ ของ สนช.และสปท.เห็นว่าไม่ควรแยก แต่ให้อยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขึ้นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขณะที่นายกรัฐมนตรี ขอให้กรรมการปฏิรูปตำรวจเป็นผู้พิจารณา โดยการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจนัดแรกวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) ฝ่ายเลขานุการจะสรุปข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปตำรวจจากฝ่ายต่างๆ ให้กรรมการพิจารณา พร้อมตั้งอนุกรรมการขึ้นมาทำงานในแต่ละด้าน
ทั้งนี้ กรรมการจะใช้เวลา 2 เดือนในการศึกษาข้อเสนอ ก่อนยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องใน 3 เดือน และ 4 เดือนสุดท้ายเป็นการเปิดรับฟังความเห็นและทบทวนปรับแก้