"คดีข่มขืนเด็กฝรั่งเศส" คดีไม่คืบหรือเตะถ่วงกระบวนการ

อาชญากรรม
11 ก.ค. 60
12:45
2,463
Logo Thai PBS
"คดีข่มขืนเด็กฝรั่งเศส" คดีไม่คืบหรือเตะถ่วงกระบวนการ

โดย.....หทัยรัตน์ พหลทัพ

 

 

"ฟิลิปเป้" (นามสมมุติ) พ่อชาวฝรั่งเศสเข้าร้องเรียนกับทีมข่าวไทยพีบีเอสว่า ลูกสาววัย 8 และลูกชาย 5 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงชาวอังกฤษกระทำอนาจารและกระทำชำเราเป็นเวลานานกว่า 1 ปี หลังทราบเรื่องราวจากปากลูกทั้ง 2 คนประมาณเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า "พ่อเลี้ยงบังคับให้ดื่มเบียร์และให้ดูวิดีโอโป๊ แถมบางครั้งก็สอนเรื่องเพศไม่เหมาะสม"

เขาจึงเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในข้อหา "กระทำอนาจาร" แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทราบภายหลังว่าการแจ้งความครั้งนั้นเป็นการแจ้งความผิดท้องที่ ต่อมาเดือนมีนาคม เขาจึงเข้าแจ้งความใหม่ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ในข้อหาเดียวกัน

พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเด็กหญิงวัย 8 ขวบ มีถ้อยคำตอนหนึ่งว่า "พ่อเลี้ยงได้นำวิดีโอแมวนวดอวัยวะเพศชายมาให้ดูและบอกให้ทำตาม" ส่วนปากคำเด็กชายวัย 5 ขวบระบุถ้อยคำว่า "ขณะอยู่ในห้องนอนพ่อเลี้ยงได้ถอดกางเกงและสอนวิธีนวดอวัยวะเพศชายให้และทำให้ดูเป็นตัวอย่าง อีกทั้งนำคลิปวิดีโอโป๊มาให้ดูอีกหลายครั้ง"

คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้วได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการใน 3 ข้อหา คือข้อหาการทำร้ายร่างกาย ข้อหาข่มขืนใจผู้อื่น และข้อหากระทำการอับอายต่อสาธารณะ แต่ไม่มีข้อหาเกี่ยวกับการกระทำอนาจาร

 

 

"สาเหตุที่ส่งฟ้องโดยไม่มีข้อหาเกี่ยวกับการทำอนาจารเลย เพราะผลตรวจร่างกายของเด็กไม่ระบุว่า มีการกระทำอนาจาร เป็นแต่เพียงปากคำของพ่อเท่านั้น" ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เจ้าของสำนวนอธิบาย

 

 

แต่นายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือเด็กในคดีถูกข่มขืนและกระทำอนาจารกว่า 400 คดี เห็นแย้งว่าคดีเด็กถูกกระทำอนาจารและถูกกระทำชำเรา บางครั้งการตรวจร่าง กายอาจไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืน เพราะบางครั้งร่องรอยการถูกข่มขืนอาจลบเลือน แต่ให้คำการของเด็กที่ให้การต่อนักจิตวิทยาเด็ก นักสังคมสงเคราะห์ พนักงานอัยการถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ

"การกระทำอนาจารไม่มีทางจะพบหลักฐานจากการตรวจร่างกาย เพราะไม่มีร่องรอยอยู่แล้ว แต่มันจะอยู่ในใจและความทรงจำของเด็ก เรื่องราวเหล่านี้เด็กไม่สามารถโกหกได้ เพราะเขาจะเล่าตามที่ภาพเห็น ไม่มีใครสามารถบอกหรือให้พูดตามได้ เด็กจึงถือเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยกฎหมายแล้ว คำให้การของเด็กจึงมีน้ำหนัก" เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กล่าว

ต่อมาเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พ่อชาวฝรั่งเศสได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา เพิ่มเติมในข้อหา "กระทำชำเรา" หลังทราบรายงานการตรวจสุขภาพจิตของเด็กชายวัย 5 ขวบจากแพทย์ชาวฝรั่งเศส ประเทศฝรั่งเศส

 

 

รายงานตรวจสุขภาพจิตระบุว่า เด็กชายมีพฤติกรรมระมัดระวังตัวในตอนแรก แต่ก็สามารถเข้ากับคนอื่นได้ในเวลาต่อมา เด็กเล่าตอนหนึ่งว่า "เขาเห็นพ่อเลี้ยงเปิดผ้าห่มของพี่สาวและถอดกางเกงของเธอ แล้วก็เข้านอนกับเธอและจับก้นและเอามือใส่ก้นของเธอ"

 



เมื่อผลตรวจสุขภาพจิตและมีการให้ถ้อยคำเช่นนี้ ทำให้พ่อของเด็กสอบถามลูกสาวและลูกชาย กระทั่งพวกเขายอมเล่าถึงเรื่องราวที่ถูกกระทำ "แม้ผมจะเจ็บปวดแต่ผมก็ต้องทนฟังสิ่งที่ลูกสาวและลูกชายเล่า ทุกวันนี้ผมจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกทั้ง 2 คน" พ่อชาวฝรั่งเศสเล่าด้วยเสียงสั่นเครือ

คดีนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กทั้ง 2 คนไปตรวจร่างกายและพบนักจิตวิทยาเด็กที่ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ


"เราจะส่งผลการตรวจร่างกายและสุขภาพจิตเด็กไปให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบสำนวนตามการร้องขอ แต่ไม่สามารถเปิดเผยผลตรวจต่อสาธารณะได้" เจ้าหน้าที่ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจให้ข้อมูล

ทีมข่าวไทยพีบีเอสติดต่อขอสัมภาษณ์แม่ชาวจีนของเด็กทั้ง 2 คน แต่เธอไม่ยอมให้ข้อมูล ทราบเพียงว่าขณะนี้เธอทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และแยกกับสามีชาวฝรั่งเศสมา 5 ปีแล้ว ทั้ง 2 คนไม่ได้จดทะเบียนกัน

เมื่อแยกทางกัน เธอมีหน้าที่ดูแลลูก ส่วนอดีตสามีมีหน้าที่ส่งเงินเลี้ยงดู ต่อมาเธอได้อยู่กินกับสามีใหม่ชาวอังกฤษที่เมืองพัทยา ตอนนี้เธอและอดีตสามีชาวฝรั่งเศสอยู่ระหว่างการฟ้องร้องขอปกครองเด็ก โดยศาลเยาวชนจ.ชลบุรี มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้พ่อชาวฝรั่งเศสปกครองไปพลางก่อน

ส่วนพ่อเลี้ยงชาวอังกฤษขณะนี้เข้าแจ้งความกลับพ่อชาวฝรั่งเศสต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ใน "ข้อหาแจ้งความเท็จ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง