ศาลสั่งรวมคดี 
อดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค วัย 83 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาอาการโรคหัวใจถูกนำตัวมาขึ้นศาลนัด 2 ด้วยการนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยภายในกรงเหล็กเหมือนนัดแรก ส่วนบุตรชายของนายมูบารัคทั้ง 2 คนที่อยู่ในชุดนักโทษเป็นทั้งผู้ปรนนิบัติดูแล และ คอยบังกล้องโทรทัศน์
ไม่เพียงแต่ชาวอียิปต์ทั่วประเทศเท่านั้นที่ให้ความสนใจการพิจารณาคดีอดีตผู้นำที่กุมอำนาจมายาวนานถึง 29 ปี แต่ทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางและโลกอาหรับต่างพากันจับจ้องยิ่งกว่าการพิจารณาคดีอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ของอิรัก โดยนายมูบารัค ถือเป็นอดีตผู้นำคนแรกของโลกอาหรับที่ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีแบบไต่สวนสาธารณะนี้ และ การนำไปขังไว้ภายในกรงยังมีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และ ไม่เห็นด้วย
ก่อนเริ่มกระบวนการของศาลทั้งด้านนอกและภายในห้องพิจารณามีสภาพวุ่นวาย โดยด้านนอกฝ่ายที่สนับสนุนนายมูบารัค เกิดกระทบกระทั่งกับฝ่ายญาติผู้เสียชีวิต ส่วนด้านในที่มีทนายความนับร้อยคนศาลต้องสั่งให้เงียบและนั่งลง
ทนายความพยายามขอศาลให้สั่งเรียกพยานเอกสาร และ พยานวัตถุเป็นบันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์มาเปิดเผย ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักฐานมัดตัวว่า ใครเป็นคนสั่งให้ใช้กระสุนจริงยิงผู้ประท้วงเสียชีวิตไปอย่างน้อย 850 คน
สำหรับนายมูบารัค สละอำนาจในตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากชาวอียิปต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจการปฏิวัติประชาชนจากตูนีเซีย ซึ่งเป็นชาติเพื่อนบ้านก่อการที่เรียกว่า "การลุกฮือ 18 วัน"
นายมูบารัค ถูกตั้งข้อกล่าวหานับสิบข้อหา รวมถึงคอรัปชั่นและสั่งฆ่าประชาชน ซึ่งระวางโทษสูงสุดคือประหารชีวิต ทั้งนี้ศาลได้สั่งให้รวมการพิจารณาเป็นคดีเดียวกันกับอดีตรัฐมนตรีมหาดไทยและนายตำรวจอีก 6 คน ซึ่งถูกตั้งข้อหาเหมือนกัน คือ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพยายามฆ่าในการปราบผู้ประท้วง จากนั้นศาลได้สั่งเลื่อนการสืบพยานไปเป็นวันที่ 5 ก.ย.ซึ่งจะไม่มีการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์อีกต่อไป